เว็บไซต์ worldatlas ได้รวบรวมข้อมูล และจัดอันดับประเทศที่มีวันหยุดประจำปี หรือวันหยุดราชการ โดยครั้งนี้ประเทศกัมพูชาคว้าอันดับ1ไปครอง เป็นประเทศที่มีวันหยุดมากที่สุดในโลกถึง 28 วันต่อปี ขณะที่ไทยได้อันดับ 6 มีจำนวนวันหยุด 16 วันต่อปี
ตามมาด้วยประเทศอื่นๆตามนี้
อันดับที่ 2 ประเทศศรีลังกา มีวันหยุด 25 วันต่อปี
อันดับที่ 3 ประเทศอินเดียและคาซัคสถาน มีวันหยุด 21 วันต่อปี
อันดับที่ 4 ประเทศโคลัมเบีย,ฟิลิปปินส์ และตรินิแดดและโตเบโก มีวันหยุด 18 วันต่อปี
อันดับที่ 5 ประเทศจีนและฮ่องกง มีวันหยุด 17 วันต่อปี
อันดับที่ 6 ประเทศไทย,ตุรกีและปากีสถาน มีวันหยุด 16 วันต่อปี
อันดับที่ 7 ประเทศศรีญี่ปุ่น,มาเลเซีย,อาร์เจนตินา,ลิทัวเนีย และ สวีเดน มีวันหยุด 15 วันต่อปี
อันดับที่ 8 ประเทศอินโดนีเซีย,ชิลี และสโลวาเกีย มีวันหยุด 14 วันต่อปี
อันดับที่ 9 ประเทศเกาหลีใต้,ออสเตรีย,เบลเยี่ยม,นอร์เวย์,ไต้หวันและเนปาลมีวันหยุด 13 วันต่อปี
อันดับที่ 10 ประเทศฟินแลนด์และรัสเซีย มีวันหยุด 12 วันต่อปี
นอกจากนี้ในเว็บไซต์ ยังได้ระบุข้อความที่น่าสนใจไว้ในช่วงหนึ่งของข้อมูลที่นำเสนอว่า
“ข้อดีอย่างหนึ่งของวันหยุดคือสามารถออกไปเที่ยวกับครอบครัวและใช้เวลาว่างกับพวกเขา วันหยุดมีประโยชน์เนื่องจากจะเพิ่มการติดต่อทางสังคมของคุณที่ไม่สามารถมีได้ในระหว่างวันทำงานและพนักงานเองก็จะมีเวลาพักผ่อนมากพอ
แต่ในทางกลับกันวันหยุดเหล่านี้อาจส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจของประเทศเนื่องจากธุรกรรมขนาดใหญ่ในประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการธนาคารและภาคการเงินอาจถูกระงับไว้ ภาคธุรกิจการเงินอาจจะมีการติดขัดและต้องใช้เวลานานเพื่อจัดการแก้ไข ดังนั้นในกรณีนี้รัฐบาลจำเป็นต้องจัดเตรียมวันหยุดพักผ่อนที่เหมาะสมและวิธีบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นจากการให้วันหยุด”
สำหรับประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ฯ มาตรา ๒๙ กำหนดว่า
” ให้นายจ้างประกาศกำหนดวันหยุดตามประเพณีให้ลูกจ้างทราบเป็นการล่วงหน้าปีหนึ่ง ไม่น้อยกว่าสิบสามวันโดยรวมวันแรงงานแห่งชาติตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ให้นายจ้างพิจารณากำหนดวันหยุดตามประเพณีจากวันหยุดราชการประจำปี วันหยุดทางศาสนา หรือขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งท้องถิ่น
ในกรณีที่วันหยุดตามประเพณีวันใดตรงกับวันหยุดประจำสัปดาห์ของลูกจ้าง ให้ลูกจ้างได้หยุดชดเชยวันหยุดตามประเพณีในวันทำงานถัดไป ในกรณีที่นายจ้างไม่อาจให้ลูกจ้างหยุดตามประเพณีได้เนื่องจากลูกจ้างทำงานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานตามที่กำหนดในกฎกระทรวงให้นายจ้างตกลงกับลูกจ้างว่าจะหยุดในวันอื่นชดเชยวันหยุดตามประเพณีหรือนายจ้างจะจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้ก็ได้”
ทั้งนี้วันหยุดตามประเพณี นายจ้างมีอำนาจในการกำหนดเอง โดยไม่ต้องตกลงหรือได้รับความยินยอมจากลูกจ้างก่อน ซึ่งหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด คือ ให้พิจารณาจากวันหยุดราชการ วันหยุดทางศาสนา หรือขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งท้องถิ่น เช่น วันขึ้นปีใหม่ วันสงกรานต์ วันเข้าพรษา วันออกพรรษา เป็นต้น ซึ่งปีหนึ่งต้องกำหนดไม่น้อยกว่า ๑๓ วัน มากกว่าได้ น้อยกว่าไม่ได้
อ่านข่าว Bright Today