หลังจากที่อดีตเจ้าบ่าวรวมตัวกันไปแจ้งความกับทางกองบังคับการกองปราบปราม โดยแจ้งข้อหาฉ้อโกง นางสาวจริยาภรณ์บัวใหญ่และพ่อแม่ รวมทั้งหญิงที่มีชื่อบัญชีธนาคารแอบอ้างให้เจ้าบ่าวโอนเงิน
เมื่อคืนที่ผ่านมา ประมาณ 23.00 น. เจ้าบ่าวคนล่าสุด ชื่อนายน้อย ชาวปราจีนบุรี ซึ่งแต่งงานกับนางสาวจริยาภรณ์เมื่อเดือนสิงหาคมได้เดินทางมาให้ปากคำที่บังคับการปราบปราม โดยพบว่านายน้อย ปัจจุบันมีสภาพเกือบหมดเนื้อหมดตัวและไม่มีแม้แต่เงินที่จะเดินทางมาให้ปากคำ ทางฝ่ายประสานงานของทางอดีตเจ้าบ่าวต้องเป็นฝ่ายส่งรถไปรับที่บ้านจากปราจีนบุรีเพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามและเข้าให้ข้อมูลเมื่อคืนแต่งงานเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา
ภาพ อดีตเจ้าบ่าว นายน้อย จากจ.ปราจีนบุรี (ซ้าย), นางสาวจริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือนางสาวน้ำ (ขวา)
ด้านกองบังคับการปราบปราม พันตำรวจเอก สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บังคับการปราบปราม กล่าวว่าการแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 4 คน หมายจับที่สามารถทำได้ทันทีคือ นางสาวจริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือนางสาวน้ำ หญิงสาวที่หลอกชายแต่งงานเพราะมีคดีค้างเก่าที่ถูกออกหมายจับมากถึง 30 คดี จึงไม่มีความกังวลในเรื่องการออกหมายจับ หากตำรวจนายใดเจอนางสาวน้ำที่แห่งใด
ส่วนอีก 3 ราย คือนายบุญเลี้ยง บัวใหญ่ มีความเกี่ยวข้องเป็นพ่อ และนางสำรอง บัวใหญ่มีความเกี่ยวข้องเป็นแม่ของนางสาวน้ำ ซึ่งพบพฤติกรรมอยู่ร่วมงานแต่งงานของนางสาวจริยาภรณ์หลายครั้ง แต่กลับไม่เคยบอกประวัติของฝ่ายเจ้าบ่าวเลย รวมถึงนางสาวสร้อยเพ็ชร มาลีวัลย์ มีความเกี่ยวข้องเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่นางสาวน้ำ จริยาภรณ์ ใช้เป็นช่องทางการโอนเงินจากเจ้าบ่าวที่ถูกหลอกให้แต่งงานในคดี ฉ้อโกง แสดงตนเป็นคนอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 342 ได้นั้น ยังต้องอยู่ในขั้นตอนของชั้นพนักงานสอบสวนเจ้าบ่าวทั้ง 13 คน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและการกระทำความผิด และมีพยานที่รู้เห็นมาให้ปากคำ แล้วถึงจะออกหมายจับได้
ด้านนางสาวเหมียว (ขอสงวนชื่อ-สกุลจริง) พี่สาวคนโตของนางสาวน้ำ จริยาภรณ์ บัวใหญ่ ซึ่งอยู่ที่อำเภอวังสระพุง จังหวัดเลย ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ปฏิเสธว่าพ่อแม่หนีไปไหน หรือไปอยู่กับนางสาวจริญาภรณ์ และพึ่งทราบว่ามีการแจ้งความจับพ่อและแม่ด้วย ซึ่งตนเองไม่ได้เจอกับนางสาวน้ำมาตั้งนานแล้ว
นางสาวเหมียวบอกอีกว่า พ่อแม่ของตนใช้ชีวิตอยู่ที่ อ.วังสะพุง จ.เลยกับนางสาวเหมียวมาตลอด แต่เพิ่งหายตัวไปเมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคมหรือประมาณ 5 วันที่ผ่านมาหลังจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาติดตามตัวนางสาวจริยาภรณ์ และเมื่อสอบถามว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่พ่อกับแม่ไปแต่งงานถึงสองครั้งที่บ้านจ.ปทุมธานี ของนางสาวจริยาภรณ์ นางสาวเหมียวทราบหรือไม่ ก็ให้การปฏอเสธ ว่าเมื่อตอนพ่อแม่หายไปจากบ้าน กลับมากก็ไม่ได้บอกกับเธอไปร่วมงานแต่งงานของน้องสาว รวมถึงปฏิเสธว่า เธอไม่ใช่คนมาร่วมงาน