ความคืบหน้าการขุดค้นพื้นที่ทัณฑสถานหญิงเก่า กลางเมืองเชียงใหม่ เพื่อหาหลักฐานทางโบราณคดี “ข่วงหลวงเวียงแก้ว” วังหลวงของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ในอดีต ตามแผนที่โบราณของอาณาจักรล้านนา ที่ดำเนินการโดยสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ หลังเริ่มขุดเปิดหน้าดินมาตั้งแต่ปี 2559 กระทั่งมีการขุดค้นพบแนวกำแพงอิฐอยู่ใต้ผิวดินที่ระดับความลึก 80 ซม. – 1 เมตร บริเวณด้านหลังเรือนพยาบาลเก่า และเมื่อขุดเพิ่มเติมก็พบแนวกำแพงอิฐอยู่บริเวณกำแพงของทัณฑสถานหญิงเก่าด้านทิศตะวันตก ล่าสุด เจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ นำตัวแทนจากเทศบาลนครเชียงใหม่ และตัวแทนชุมชนในพื้นที่คูเมืองเก่า รวมทั้งสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการขุดค้นทางโบราณคดีที่สำคัญในครั้งนี้
นายสายกลาง จินดาสุ นักโบราณคดีปฏิบัติการ สำนักงานศิลปากรที่ 8 กล่าวว่า การขุดค้นครั้งนี้อยู่เฟสที่ 2 ทางโบราณคดี เป็นการขุดค้นต่อเนื่องจากเฟสแรกที่ได้สำรวจทางธรณีฟิสิกส์ และการขุดค้นทางโบราณคดีเป็นข้อมูลพื้นฐาน เพื่อวางแผนขุดค้นในเฟสที่ 2 ซึ่งข้อมูลการสำรวจทางธรณีฟิสิกส์ให้ผลว่า มีส่วนจะเจอโครงสร้างแข็งใต้ดินที่เป็นแนวกำแพงอิฐ ประมาณ 6 – 7 จุด และเมื่อมีการขุดค้นทางโบราณคดี ช่วงระดับตั้งแต่ผิวดินจนถึงความลึก 50 ซม. เป็นช่วงระดับชั้นใช้งานของยุครัตนโกสินทร์ตอนกลางจนถึงยุคสมัยปัจจุบัน แต่ตั้งแต่ความลึกที่ 60 ซม. เป็นต้นไป โดยเฉพาะที่ระดับความลึก 80 ซม. – 1 เมตร จะเป็นชั้นใช้งานในยุคล้านนา
เจ้าหน้าที่จึงใช้ข้อมูลทั้ง 2 ส่วนวางแผนขุดค้นทางโบราณคดีในครั้งนี้ โดยการวางร่องขุดตรวจ และขุดบริเวณรอบ ๆ ตัวอาคารภายในทัณฑสถานหญิงที่ยังไม่ได้รื้อถอนทั้ง 6 หลัง ซึ่งข้อมูลสำคัญที่พบ ทำให้สามารถแบ่งประเภทของโบราณสถานที่พบออกเป็น 2 สมัย คือ สมัยแรกเป็นโบราณสถานที่ระดับความลึกตั้งแต่ 80 ซม. – 1 เมตรจากผิวดินปัจจุบัน เป็นแนวกำแพง ที่มีลักษณะความกว้าง 1.8 – 2 เมตร มีการก่อหนาประมาณ 5 – 8 ชั้นดิน จากข้อมูลเปรียบเทียบกับแผนผังโบราณที่ทำทับซ้อนกับพื้นที่ปัจจุบัน ก็สอดคล้องกันว่าแนวกำแพงที่ขุดพบครั้งนี้เป็นแนวกำแพงเวียงแก้วชัดเจน