ปศุสัตว์จังหวัดปทุมธานีตั้งข้อสังเกต 2 ประเด็น จากกรณีนมโรงเรียนไผทอุดมศึกษาเน่าเสียเมื่อวานนี้ ที่อาจเกิดเสียระหว่างขนส่งหรือโรงเรียนเก็บไม่ถูกหลัก แต่เบื้องต้น อย. เก็บตัวอย่างนมเสียไปตรวจหาเชื้อโรคในห้องแล็ปแล้วโดยต้องรอผลประมาณ 3 สัปดาห์ หากพบผิดในส่วนโรงงานผู้ผลิตก็จะลงโทษทางวินัย
สัตวแพทย์ณรงค์ เลี้ยงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีชีวภาพ กรมปศุสัตว์จังหวัดปทุมธานี ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าวไบรท์นิวส์จากกรณีที่ ผู้อำนวยการโรงเรียนไผทอุดมศึกษา ที่สั่งห้ามให้เด็กในโรงเรียนดื่มนมโรงเรียน เนื่องจากพบมีความขุ่นข้นเมื่อวานนี้นั้น อาจจะมาจากปัญหานมเสีย โดยปัจจัยที่จะทำให้นมเสียได้มีอยู่ 2 ประเด็น คือการ ขนส่งจากสหกรณ์โคนมไทยมิลค์จำกัดมาถึงโรงเรียน อาจจะไม่ได้เก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมตามคำแนะนำข้างกล่อง หรือ เมื่อนมถูกส่งมาถึงโรงเรียนแล้ว แต่ทางโรงเรียนนำนมไปวางซ้อนกัน หรือโยน หรือเก็บไว้ในอุณหภูมิสูงกว่า 8 องศา ก็จะเป็นปัจจัยที่นมให้นมเสียก่อนวันหมดอายุได้ ซึ่งเมื่อวานนี้ทาง อย. และปศุสัตว์ก็ได้เก็บนม ที่ขุ่นข้นดังกล่าวไปตรวจหาเชื้อโรคในห้องแล็ป ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 สัปดาห์จึงจะทราบผลว่านมที่มีปัญหามีเชื้อโรคใดปนเปื้อนอยู่บ้าง
ทั้งนี้ ตามหลักแล้ว หากตรวจพบว่านมเสียระหว่างการขนส่ง สหกรณ์โคนมไทยมิลค์จำกัด จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเนื่องจากในสัญญาระบุไว้ ส่วนประเด็นการทุจริตที่ทางภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ ที่มีการระบุว่า ทางสหกรณ์โคนมไทยมิลค์จำกัด ได้ใช้นมผงมาผสมในนมวัวจึงทำให้นมโรงเรียนไม่มีคุณภาพ จนทำให้นมเสียง่ายนั้น ทางสัตวแพทย์ณรงค์ ยืนยันว่า ในส่วนนี้เกิดขึ้นได้ยากเนื่องจาก กรมปศุสัตว์ได้เข้าตรวจสอบโรงงานที่ผลิตนมโรงเรียนเดือนละ 1 ครั้ง เช่นเดียวกับทาง อย.ที่สุ่มตรวจตามโรงงานและศูนย์รวมนมประจำอำเภอที่จะต้องผ่านมาตรฐานสากลระดับ GMP ฉะนั้นส่วนตัวจึงคิดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเคสล่าสุด น่าจะมาจากการที่เสียในการจัดเก็บ ไม่ใช่การทุจริตลดต้นทุน