พสกนิกรชาว จ.จันทบุรี สุดปลาบปลื้มหลังได้จัดพิธีบวงสรวงพร้อมเครื่องขมารุกขเทวดาและพิธีตัดกล้วยตานีจำนวน 90 ต้น เพื่อจัดทำเครื่องสดประดับพระจิตกาธานชั้นเรือนยอด 9 ชั้นในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เจ้าหน้าที่ประกอบพิธีบวงสรวงพร้อมเครื่องขมารุกขเทวดา และพิธีตัดกล้วยตานีที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อใช้ร่วมเครื่องสดประดับพระจิตกาธาน ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่สวนผลไม้ของ นายวรรณยุทธ เชยสมบัติ อายุ 56 ปี ชาวบ้าน ต.เกวียนหัก อ.ขลุง จ.จันทบุรี เมื่อช่วงเช้าเวลา 09.14 น. (17 ต.ค.60)
นายวรรณยุทธ เปิดเผยว่า รู้สึกปลาบปลื้มดีใจจนทำอะไรไม่ถูก หลังจากต้นกล้วยตานีที่ปลูกไว้กว่า 3 ปีภายในสวนแห่งนี้ จะได้รับเลือกจากตัวแทนนายช่างแทงหยวกที่ถวายงานพระราชพิธีจะนำไปใช้เป็นเครื่องสดประดับพระจิตกาธานชั้นเรือนยอด 9 ชั้นในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งตนเองและครอบครัวไม่คิดว่าปลาบปลื้มในชีวิตนี้จะได้มีโอกาสรับใช้ใต้ฝ่าพระบาท เนื่องจากเป็นแค่ชาวสวนสามัญชนทำให้ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
สำหรับ จ.จันทบุรี จะอัญเชิญต้นกล้วยตานีร่วมเครื่องสดประดับพระจิตกาธาน จำนวน 90 ต้น ประกอบด้วยกล้วยตานีจาก นายวรรณยุทธ และชาวบ้านพื้นที่ บ.คานรูด ต.เกวียนหัก 40 ต้น, สวนกล้วยของ นายเกษม วิมลลักษณะ ชาวบ้าน ต.เขาบายศรี และชาวบ้าน บ.สามผาน ต.สองพี่น้อง จำนวน 30 ต้น , จาก ต.เขาบายศรี 10 ต้น และ ต.เขาพลอยแหวน อ.ท่าใหม่ 10 ต้น ส่วนสาเหตุที่เลือกต้นกล้วยตานีจาก จ.จันทบุรี เนื่องจากลำต้นอวบใหญ่ สูงตระหง่าน อยู่ในเชิงเขาที่มีแหล่งน้ำธรรมชาติสมบูรณ์ โดยต้นกล้วยตานีที่ใช้ในการประกอบพิธีจะมีคุณสมบัติพิเศษ คือ ลำต้นตรง กาบกล้วยมีมาก ไม่หนาหรือบางจนเกินไป ภายในมีกาบมีรังผึ้งมากกว่าต้นกล้วยชนิดอื่น ทำให้สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้นานกว่า เมื่อนำไปใช้จึงไม่เหี่ยวเฉา อีกทั้งการตัดกล้วยตานีไปใช้ในงานพระราชพิธีต้องเป็นต้นกล้วยที่ยังไม่ออกเครือเท่านั้น
และวันนี้ เวลา 15.00 น. จะทำการขนต้นกล้วยตานีเข้ามาพักไว้ในเขตพระบรมมหาราชวัง ส่วนในวันที่ 19 ตุลาคม เวลา 09.14 น. จะมีพิธีสังเวยบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ลานหน้าอาคารโรงโขน โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ และวันที่ 24 ตุลาคม ช่างคณะทำงานจะดำเนินงานแทงหยวกและเตรียมงานเครื่องสดเพื่อนำขึ้นติดตั้งประกอบบนพระจิตกาธานที่พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 25 ตุลาคม ก่อนเวลา 16.00 น. อันเป็นวันบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุมาศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท