หลังจากที่เมื่อวานนี้ ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ทและบ้านพัก 5 จุด ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในพื้นที่บ้านปางยาง ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดเป็นแปลงที่ได้รับการผ่อนปรนตามมติ ครม. 30 มิถุนายน 2541 แต่กลับพบว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือให้กับกลุ่มนายทุนและมีสร้างเป็นรีสอร์ท ถือเป็นการผิดเงื่อนไขตามมติ ครม. โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ผู้ดูแลสถานที่นำมาแสดง เพื่อพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีขอคืนพื้นที่ป่าโดยเร็ว
ล่าสุดเช้าวันนี้ ( 8 มีนาคม) ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ ยังคงเดินหน้าตรวจสอบการบุกรุกป่าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โดยเข้าตรวจสอบที่ดินผืนงามบริเวณเชิงดอยสุเทพ ย่านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หมู่ 5 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จำนวน 2 แปลง ที่มีการถือครองตามมติ ครม. 30 มิถุนายน 2541 โดยพบว่าแปลงแรกมีชื่อนายเสถียร หมูเสน ถือครอง 1.56 ไร่ แต่กลับพบว่ามีการขยายพื้นที่การครอบครองกว่า 13 ไร่ ส่วนแปลงที่สองที่อยู่ติดกัน มีชื่อของนางเพ็ญศรี มะลิวัลย์ เป็นผู้ถือครอง 1.2 ไร่ แต่พบการขยายพื้นที่ครอบครองออและล้อมรั้วรวมกว่า 10 ไร่
ขณะเดียวกันยังเข้าตรวจสอบหอพักแทนคุณในหมู่บ้านร่ำเปิง ต.สุเทพ ที่พบว่ามีการก่อสร้างในพื้นที่ของอุทยานฯ โดยที่ไม่มีเอกสารสิทธิใด ๆ เป็นพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ โดยนางอำไพ วะน้ำค้าง เจ้าของหอพัก มีเพียงใบ รับแจ้งความประสงค์จะได้สิทธิ์ในที่ดินมาแสดง ซึ่งเป็นเพียงเอกสารที่จะขอให้กรมที่ดินมารังวัด ไม่ถือเป็นเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์
นอกจากนี้ยังตรวจสอบที่สวนทิพย์เมฆชลาปันต์ ในบริเวณเดียวกันที่ถือครองตามมติ ครม. แต่เชื่อว่ามีการใช้ที่ดินผิดเงื่อนไข โดยพื้นที่นี้ อช.ดอยสุเทพ – ปุย เคยแจ้งความดำเนินคดีเพื่อขอเพิกถอน แต่ศาลยกฟ้อง เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ให้การกับศาลเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ถือครอง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่รายนี้กำลังถูกสอบสวนความผิด โดยล่าสุด อช.ดอยสุเทพ-ปุย กำลังรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อขอเพิกถอนสิทธิในพื้นที่นี้อีกครั้ง
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจสอบบ้านพักอาศัยตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน โดยได้นำเครื่องดาวเทียมจีพีเอส ตรวจหาพิกัดแนวเขตอุทยานฯ และติดต่อขอพบเจ้าของบ้านเพื่อขอตรวจสอบเอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดิน โดยบ้านพักหลังหนึ่งพบว่ามีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติด้วย
ด้าน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ เปิดเผยว่า ที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่มีการบุกรุกมีอยู่หลายพันไร่ เกือบทั้งหมดอยู่บริเวณแนวเส้นแบ่งเขต โดยเฉพาะบริเวณโซนด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เป็นที่ดินเชิงเขา วิวสวย เป็นที่ต้องการของกลุ่มนายทุนและชาวต่างชาติในการสร้างบ้านพักและรีสอร์ท ทำให้พบการซื้อขายเปลี่ยนมือจากชาวบ้านเป็นนายทุน ซึ่งการเขาตรวจสอบตลอดทั้งสัปดาห์นี้ เป็นเพียงการนำร่อง หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดและจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่ ผู้ซื้อ และ ผู้ขาย ทุกรายที่พบว่าทำผิดกฏหมาย