ตำรวจระบุจัมกุม 3 ผู้ต้องหาก่อคดีอุกฉกรรจ์ จากพฤติกรรมกระทำผิดกฎหมาย แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ปส. ส่วนผู้เสียหายตรวจประวัติไม่พบเคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดตามที่อ้าง ด้านผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยอมรับอดีตดาราเคยมาขอสมัครเป็นครูฝึก แต่ไม่ได้รับ
ข้อความและเนื้อหาบ่งชี้ว่า มีความพยายามของอีกฝ่ายเพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องของคดี โดยระบุว่า เป็นผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตำรวจปราบปรามยาเสพติด ทำให้วันนี้ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการ ปส. ออกมายอมรับว่า เป็นไลน์เก่า โดยนายวีระชัยศรีวณิก วรรณึกกุล หรือ หนอ วีระชัย ผู้ต้องหาที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เข้าตรวจค้นอู่ทำสีรถ โดยอ้างว่า ผู้เสียหายมีหมายจับคดียาเสพติด เข้ามาพบตัวเองที่ ปส. เพื่อขอเป็นครูฝึกหน่วยสยบไพรี เมื่อ 6 เดือนก่อน อ้างว่า ตัวเองเคยฝึกยุทธวิธีให้กับทหารหน่วยหนึ่งมาก่อน ขณะนั้น นายหนอ เข้ามาในฐานะประชาชนคนหนึ่งและเข้ามาตามขั้นตอน จึงรับฟัง และให้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้น ชายคนดังกล่าวก็กลับออกไป จนกระทั่งทราบว่าถูกจับกุม
พล.ต.ท.สมหมาย ระบุว่า ไม่รู้สึกตื่นเต้นกับคนพวกนี้ ที่นำตำรวจมาแอบอ้าง หรือเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เพราะประชาชนรู้ดีว่า ตำรวจทำงานอย่างไร และหลังทราบว่า นายหนอ ถูกจับกุม จึงได้สั่งให้ตรวจสอบว่ามีการกล่าวอ้างเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือไม่ เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอีกทางหนึ่ง
ส่วนความคืบหน้าของคดี พันตำรวจเอกธรากร เลิศผลเจริญ รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สน.สายไหม ระบุว่า ขณะนี้ศาลมีนบุรีรับฝากขัง 3 ผู้ต้องหาไว้ชั่วคราว พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และในสำนวนคดีได้ให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวม เช่น ผลตรวจสอบประวัติอาชญากรรม / สอบปากคำพยานต่างๆ ก่อนส่งสำนวนให้อัยการ ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาจะอ้างว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นเพียงคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา จะให้การอย่างไรก็ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องไปพิสูจน์กันในชั้นศาล พร้อมย้่ำว่า ผู้ต้องหาถูกจับกุมจากพฤติกรรมที่เข้าไปกักขังและอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.
ด้านนายชมะนันทน์ วรรณวินเวศร์ ทนายความ ของ 3 ผู้ต้องหา ระบุว่า ทีมทนายได้ปรึกษาถึงขั้นตอนดำเนินการเพื่อยื่นประกัน ซึ่งเบื้องต้นเตรียมจะอุทธรณ์ขอประกันตัวอีกครั้ง โดยจะเพิ่มวงเงินให้สูงขึ้น และจะชี้แจงเหตุผลต่อศาลในกรณีว่าลูกความไม่มีเจตนาจะหลบหนี พร้อมยังฝากถึงประชาชนให้เสพสื่ออย่างรู้เท่าทัน โดยเฉพาะสื่อโซเซียล เพราะมีการบิดเบือนข้อมูลอย่างมาก