30 ม.ค.60 เทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง อ.เมืองสตูล จ.สตูล จัดการแข่งขันทำอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อ อาทิ การทำขนมผูกรัก และการชักชา อาหารว่างที่ขึ้นชื่อสร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ต้นตำรับของการทำขนมผูกรัก และการชักชาที่มีลีลาลวดลายในการชงจุดเริ่มต้นมาจากพื้นที่ ต.เจ๊ะบิลัง อ.เมืองสตูล นักชงชาที่มีการชักชาลีลาเตะตาและรสชาติกลมกล่อมลงตัว เช่นร้านดัง ๆ อย่างร้านกู ร้านกัมปง ร้านบังฟาน และอีกหลายร้านเป็นพลเมืองมาจากตำบลแห่งนี้
จากเหตุผลดังกล่าว นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง จึงจัดให้มีการแข่งขันทำขนมผูกรัก และการชักชาขึ้นในงาน “มลายูเดย์” ครั้งที่ 3 ขึ้น โดยจัดขึ้นเฉพาะในกลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง 10-13 ปี นอกจากจะเป็นการสร้างความสนุกสนานภายในงานแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมเวลาว่างให้เกิดประโยชน์กับเด็กเยาวชน และปลูกฝังให้เยาวชนรุ่นนี้ได้รู้จักอนุรักษ์ของดีพื้นถิ่น ซึ่งต่อไปจะเป็นอาชีพโดยเยาวชนเหล่านี้อาจจะไม่รู้ตัว ผ่านการทำกิจกรรมการแข่งขันในครั้งนี้ โดยคณะกรรมการตัดสินก็มาจากกลุ่มผู้มีทักษะทางอาชีพชักชา และชงชา รวมทั้งคนที่มีทักษะในการทำขนมพื้นเมืองผูกรัก และเร็ว ๆ นี้จะมีการเปิดศูนย์การเรียนรู้ โรตี – ชักชา ในเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลังด้วย เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยน้อง ๆ แต่ละคนต่างโชว์ลีลาชักชาหลากหลายท่าทางชนิดที่ผู้ใหญ่ยังอายด้วยการโชว์ชักชาหมุนตัวทั้งตั้งบนหัว ลอดใต้ขา บางคนเทจนหกและเสียงกองเชียร์ เสียงตบมือหัวเราะที่คอยลุ้นและให้กำลังใจกันในครั้งนี้ ซึ่งแต่ละคนไม่ยอมแพ้เลยที่เดียว
สำหรับการแข่งขันชักชาที่ทางสำนักงานเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลังซึ่งพบว่า ส่วนใหญ่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เป็นชาวมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ร้อยละ 90 และพบอีกว่าจะประกอบอาชีพประมงและเปิดร้านขายน้ำชากาแฟ และคิดท่าทางการชักชาจนเป็นที่รู้จักโด่งดังและไปเปิดร้านขายโชว์ลีลาชักชาหลายแห่ง
ขณะที่การแข่งขันการทำขนมผูกรัก เป็นสินค้าโอทอปที่กำลังขึ้นชื่อของ ต.เจ๊ะบิลัง ก็ถูกนำมาจัดการแข่งขันให้เยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย โดยปกติเด็กเหล่านี้ก็จะมีรายได้จากการทำขนมผูกรักวันละไม่น้อยกว่า 2-300 บาท เป็นค่าขนมจากการรับจ้างทำในหมู่บ้าน เป็นการหากิจกรรมที่มีประโยชน์ไปพร้อมการส่งเสริมอาชีพ ใช้เวลาให้มีคุณค่าที่ทางเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง ได้จัดขึ้น