ทนายสงกรานต์หอบหลักฐานขึ้น สน.บางเขน ร้องทุกข์กล่าวโทษ เจ้าของเพจโชว์หวิว ในข้อหาค้ามนุษย์ หลัง 2 สาวไลฟ์เฟสบุ๊กแก้ผ้าโชว์เรียกไลค์เข้ามอบตัว
จากกรณีเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม น.ส.ธันยกานต์ โรจิณ หรือเมญ่า อายุ 23 ปี น.ส.กัญจน์ธิชา บุรานนท์ อายุ 21 ปี หรือกิ๊ก เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน และ พ.ต.ต.สราวุธ บุตรดี สว.(สอบสวน) สน.บางเขน หลังถูกพนักงานสอบสวนนำหลักฐานขออำนาจศาลอาญารัชดาออกหมายจับเลขที่ 1980/2560 และ 1981/ 2560 ลงวันที่ 31 ส.ค. 2560 ในข้อหาร่วมกันกระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย และกระทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก่อนจะยื่นหลักทรัพย์และได้รับการประกันตัวในเวลาต่อมา
ความคืบหน้าเมื่อ 13.00 น. วันที่ 1 กันยายน ที่ สน.บางเขน นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และคณะทำงานฝ่ายกฏหมาย
ได้นำพยานหลักฐานเป็นแผ่นข้อมูลคลิป จำนวน 29 คลิป เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.สราวุธ บุตรดี สว.สน.บางเขน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีอาญา กับนายทุน หรือผู้ว่าจ้าง หรือเจ้าของเพจทั้ง 2 เพจ ในความผิดฐานค้ามนุษย์ เนื่องจากเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิต หรือเผยแพร่วัตถุ หรือสื่อลามก ในการว่าจ้างให้เต้นเปลื้องผ้า และเปลือยซึ่งมีลักษณะลามก อันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
นายสงกรานต์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำพยานหลักฐานมามอบเพิ่มเติมให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ว่าจ้าง พร้อมนำชื่อเพจ 2 เพจ ซึ่งมีนักเรียนนักศึกษาจำนวนมากที่มีลักษณะนุ่งน้อยห่มน้อย และได้รวบรวมคลิปของเมญ่า และกุ๊กกิ๊ก จำนวน 29 คลิป ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่จะเอาผิดกับผู้ว่าจ้าง ในความผิดตาม มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ 3 ) พุทธศักราช 2560 และยังนำภาพลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งประชาชนเข้าถึงได้อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับแก้ไข)
พุทธศักราช 2560 มาตรา 14 ( 4 ),(5) และตาม ประมวล กฎหมายอาญามาตรา83 และ มาตรา 91 และมาตรา 388 ให้ลงโทษตาม มาตรา 52 โทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 12 ปี และ ปรับตั้งแต่ 400 ,000 บาท ถึง 1,200,000 บาท เหตุเกิดระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม 2560 จนถึง วันที่ 26 สิงหาคม 2560 เวลากลางวัน และกลางคืนต่อเนื่องกัน
ด้าน พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน เปิดเผยว่า ทางนายสงกรานต์ได้นำพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องมายื่นเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย เพจที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 เพจ และ คลิปวีดีโอ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะส่งข้อมูลให้กระทรวงดิจิทัลตรวจสอบข้อมูล ว่า เพจดังกล่าว มีใครเป็นเจ้าของ หากมีข้อมูลว่าใครเป็นผู้ดูแล ก็จะเชิญตัวมาสอบสวนขยายผล ว่าเป็นผู้ว่าจ้างหรือไม่ นอกจากนี้ จะเรียก น.ส.ธันยกานต์ และน.ส.กัญจน์ธิชา มาสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนจะเข้าข่ายข้อหาใดบ้างนั้น ต้องรอผลการตรวจสอบจากกระทรวงดิจิทัล และจะทำการสอบสวนรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ว่าไปถึงบุคคลใดบ้าง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพิจารณาว่าเข้าข่ายในฐานความผิดใดต่อไป