16 มี.ค.60 เวลา 11.00 น. พ.ท.ธรรศพงษ์ จารุบารมีอนันต์ หัวหน้าฝ่ายยุทธการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยกำลังทหารในสังกัด ร่วมกันวางแผนและทำการจับกุมแก๊งค์ปล่อยเงินกู้นอกระบบผิดกฏหมาย ที่หน้าร้านทองหวังอยากมี บริเวณตลาดสดเทศบาลนครนครสวรรค์ ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ โดยได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายสุทธิชัย อินบำรุง หรือ แบงค์ อายุ 24 ปี และ นายนัส วัจนลักษณ์ หรือบัง อายุ 24 ปี พร้อมของกลาง เงินสด 1,811 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิด 1 คัน โดยมีผู้เสียหาย 2 ราย เข้าร่วมชี้ตัวและแจ้งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย
จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองร่วมกันปล่อยเงินกู้นอกระบบให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดทั่วเมืองนครสวรรค์ เฉลี่ยรายละหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท โดยมีการคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 และทำมานานแล้ว โดยมีเครือข่ายที่อยู่ในแก๊งเดียวกันอีกหลายราย และมีหัวหน้าใหญ่ชื่อ นายบัง ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งผู้ต้องหาให้การอ้างว่า รู้จักกันตั้งแต่ถูกต้องคดีอยู่ในเรือนจำ และขณะนี้นายบังยังถูกคุมขังอยู่ ซึ่งมีภรรยานายบังคอยสรุปยอดรายวัน
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม นางพัชรินทร์ ซับรัตน์ อายุ 55 ปี หนึ่งในผู้เสียหายให้การว่า แก๊งปล่อยเงินกู้กลุ่มดังกล่าวมีพฤติการณ์ที่เหี้ยมโหด นอกจากจะปล่อยกู้ดอกร้อยละ 20 แล้วยังมีการข่มขู่รุ่นแรง หากไม่มีเงินมาจ่ายให้ทันกำหนด จะมีการยกพวกมารุมทำร้าย จึงทำให้ตนเกิดความหวาดกลัวอย่างมาก เพราะครั้งหนึ่งเคยถูกกลุ่มพวกนี้ข่มขู่ว่าจะยกพวกบุกไปปาระเบิดที่บ้าน อีกทั้งยังพูดจาอวดเบ่งบอกไม่กลัวทหาร-ตำรวจใน จ.นครสวรรค์ เนื่องจากรู้จักกันหมด ซึ่งเรื่องนี้ตนรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงตัดสินใจนำเรื่องดังกล่าวไปร้องทุกข์ต่อทหาร จนกระทั่ง มีการวางแผนเข้าจับกุมดังกล่าว
พ.ท ธรรศพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเชิงลึกพบว่า แก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบรายนี้เป็นเครือข่ายใหญ่และมีพฤติกรรมโหดเหี้ยม ปล่อยเงินกู้นอกระบบคิดดอกเบี้ยตั้งแต่ร้อยละ 20-30 ซึ่งมีผู้ที่ไปกู้ยืมเงินหลายรายส่งเรื่องมาร้องเรียนมายังฝ่ายยุทธการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.นครสวรรค์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดเฝ้าติดตามพฤติกรรมเป็นระยะ ก่อนจะมีการวางแผนซุ่มรอให้กลุ่มผู้ต้องหามาเก็บเงินจากผู้เสียหายตามปกติ เมื่อเจอกลุ่มเป้าหมายจึงได้รีบควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผลทันที โดยในเบื้องต้นจะมีการนำตัวผู้ต้องหาส่งให้ พงส.สภ.เมือง นครสวรรค์ ไปดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมขยายผลการจับกุมต่อไป