นักเรียนและผู้ปกครองโรงเรียนเขมราฐพิทยาคม กว่า 200 คน รวมตัวประท้วงขับไล่ นายวีระศักดิ์ เอกศรี ผู้อำนวยการโรงเรียน หลังพบพฤติกรรมไม่เหมาะสม เรียกเก็บเงินค่าเรียนพิเศษ 7,500 บาทต่อเทอม แต่ไม่มีจัดการเรียนการสอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสายวันนี้ (20 ก.ค.60) ภายในโรงเรียนเขมราฐพิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำอำเภอเขมราฐ จ.อุบลราชธานี มีกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมปลายมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ประมาณ 200 คน รวมทั้งผู้ปกครองของเด็กนักเรียนอีกจำนวนหนึ่ง ได้รวมตัวประท้วงให้โยกย้าย นายวีระศักดิ์ เอกศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่น เนื่องจากไม่พอใจที่เรียกเก็บเงินค่าเรียนพิเศษวันเสาร์ คนละ 7,500 บาทต่อเทอม แต่ไม่มีจัดการเรียนการสอน และหากนักเรียนคนใด ไม่จ่ายค่าเรียนพิเศษให้กับทางโรงเรียน ก็จะไม่ให้เข้าสอบกลางภาคการศึกษาด้วย ขณะที่ นักเรียนที่ไม่ได้สมัครใจเรียนพิเศษก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะตั้งแต่ผู้อำนวยการโรงเรียนคนนี้ เข้ามารับตำแหน่ง ตั้งแต่ปลายปีการศึกษา 2559 เกิดการตัดงบประมาณใช้จัดค่ายเรียนรู้เพิ่มเติมแก่เด็กนักเรียน ทำให้ไม่สามารถจัดค่ายเรียนด้านวิทยาศาสตร์ หรือภาษาอังกฤษเหมือนทุกปีการศึกษา ที่ผ่านมา จึงรวมตัวกันออกมาประท้วง เรียกร้องขอให้เขตการศึกษาย้ายตัวผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้ออกไป
ทางด้าน นายวีระศักดิ์ เอกศรี ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบว่าการประท้วงของนักเรียนต้องการอะไร แต่หากเรื่องการไม่ชำระค่าเรียนพิเศษแล้วไม่ได้สอบ ไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อทราบเรื่องมีนักเรียนไม่ได้เข้าสอบกลางภาค เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก็ได้ให้ครูที่ปรึกษาไปผ่อนผันและให้นักเรียนได้เข้าสอบตามปกติแล้ว และที่ต้องเร่งรัดกวดขันเก็บเงินค่าเรียนพิเศษเพราะมีนักเรียนหลายคนยังไม่จ่ายเงิน แต่ถ้าไม่มีเงินก็มาขอผ่อนผันได้หรือลาออกไปจากโครงการนี้ สำหรับการจัดการเรียนการสอนพิเศษเป็นเรื่องของกลุ่มงานของครูที่ต้องทำขออนุมัติขึ้นมาเป็นเรื่องๆ และไม่ทราบว่า มีการอนุมัติให้มีการจัดการเรียนการสอนไปบ้างแล้วหรือยัง
ล่าสุด นายอธิเบศ วัฒนาจำนงค์ นิติกรสำนักงานการศึกษาธิการเขต 13 ซึ่งเดินทางมาพบกับนักเรียนและผู้ปกครอง ระบุว่า จากการหารือกับตัวแทนของทุกฝ่าย รวมทั้งผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อให้เรื่องยุติ จึงเสนอต่อศึกษาธิการเขต เพื่อออกคำสั่งให้ นายวีระศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน มาช่วยราชการที่สำนักงานศึกษาธิการเขต 13 แล้วจะตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก่อนจะมีคำสั่งอื่นต่อไป