ช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้เกิดกระแสเรื่องดี ๆ ที่ผู้คนแห่ชื่นชมน้องจูน น.ส.วัลย์ลดา กันตพลจรัณธร นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ชั้นปีที่ 3 ที่หน้าตาก็ดี ฐานะทางบ้านก็ไม่เดือดร้อนอะไร แต่เธอตัดสินใจใช้เวลาช่วงปิดเทอม มาทำงานพิเศษเป็นรปภ. ที่ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค ในยามนั้นผู้คนพายกย่องเลยว่า คนแบบน้องจูนนี่แหละ ที่ควรค่าแก่การเป็นเน็ตไอดอลตัวจริง แต่เมื่อช่วงตีหนึ่งของวันนี้น้องจูนประสบอุบัติเหตุโดยรถเก๋งคันที่น้องนั่งมาท้ายรถ 18 ล้อ บริเวณจุดกลับรถย่านคลองสอง น้องจูนบาดเจ็บสาหัส วันนี้ทีมข่าวของเราไปติดตามอาการของน้องจูนแล้ว
นี่คือภาพเดียวของน้องจูนที่ คุณธนันท์รัฐ กันตพลจรัณธร คุณพ่อของน้องจูน มอบให้กับทีมข่าวไบรท์นิวส์ ที่เห็นว่าบริเวณลำคอของน้องจูนได้รับบาดเจ็บ ต้องใช้เฝือกบล็อคคอไว้ คุณพ่อเล่าว่า ล่าสุดอาการของน้องดีขึ้นบ้าง ได้ออกจากห้องไอซียูแล้ว และตอนนี้แพทย์ก็เริ่มที่จะให้หายใจเองบ้างแล้ว แต่ยังคงต้องสวมท่อช่วยหายใจไว้ทางด้านในอยู่ และงดอาหาร รวมถึงน้ำจนกว่าจะมั่นใจได้ว่าจะสามารถหายใจเองได้จริงๆ นอกจากนี้น้องจูนยังสามารถที่จะขยับแขนได้เพื่อบอกกับคุณพ่อเวลาที่มีอาการเจ็บปวด โดยน้องจูนจะตอบสนองด้วยการใช้มือทุบเตียง โดยก่อนหน้านี้ไม่สามารถทำได้ ส่วนอาการที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ คือ สมองบวม จากแรงกระแทกขณะที่ประสบอุบัติเหตุซึ่งทำให้เลือดคั่งในสมองและช้ำ ซึ่งแพทย์ยังคงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
ส่วนนี่คือสภาพรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว ที่น้องจูนนั่งมากับเพื่อน ซึ่งสภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน ซึ่งคุณพ่อของน้องจูน บอกว่าคู่กรณี คือบริษัท ปรีชาทรานสปอร์ต ซึ่งเป็นเจ้าของ รถพ่วง 18 ล้อยังไม่ติดต่อ หรือเข้ามาดูอาการคนเจ็บเลย ทางพ่อของน้องจูนจึงอยากให้คู่กรณีติดต่อมาเพื่อแสดงน้ำใจบ้าง
น้องจูน เคยบอกกับ ทีมข่าวไบรท์นิวส์ และเมื่อครั้งที่มาออกรายการเล่นใหญ่จัดใหญ่ ว่า อาชีพ รปภ.เป็นอาชีพที่น่าสนใจ ตอนนั้นเธออยากรู้ว่า อาชีพ รปภ.จะเหน็ดเหนื่อยขนาดไหน เธอจึงเดินเข้าไปพูดคุยกับคุณลุงที่เป็น รปภ.ของห้าง อีกทั้งช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ ซึ่งจูนเห็นว่าเป็นระยะเวลานานถึง 3 เดือน จึงอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นประโยชน์ และหารายได้เสริม เพื่ีอแบ่งเบาภาระพ่อแม่ ไปด้วย จูนก็เลยตัดสินใจขอสมัครงานรปภ. มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อยประจำจุดที่รับผิดชอบ รวมถึงให้บริการลูกค้าด้านข้อมูลสถานที่ ซึ่งก่อนที่จะมาฝึกงานรปภ.นั้น น้องจูนก็เคยผ่านการทำงานพาร์ทไทม์เป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารมาก่อน ซึ่งเธอรู้สึกว่าการทำงานจะทำให้เธอได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ