พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงกรณีภาพถ่ายร่วมกับอดีตพระพุทธอิสระโดย ระบุว่า เป็นการไปร่วมงาน สร้างพระที่ทางวัดจัดขึ้นโดยอดีตพระพุทธอิสระ ได้เชิญอดีตผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้นไปจำนวน 4 คน คือ ตนเอง พลเอกสมทัต อัตตะนันท์ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งไปร่วมงานในฐานะพุทธศาสนิกชนตามปกติ จึงไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องเป็นประเด็น หรือเป็นข้อเสียหาย
พลเอกอนุพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีและพลเอกประวิตร ออกมาขอโทษแทนตำรวจ ที่ใช้กำลังบุกจับอดีตพระพุทธอิสระโดยระบุว่า ทุกคนทำตามหน้าที่ จึงอยากให้ใช้สติตรึกตรองกันดีๆ ไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึกว่า คนที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายก็ต้องทำไป เมื่อทำไปแล้ว ประชาชนและสังคมคิดว่า รุนแรงไป ก็มีสิทธิคิด นายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องก็ได้ออกมาขอโทษสังคมแล้วว่าอาจจะรุนแรงไป ทางผู้ปฏิบัติก็มีเหตุผล สังคมก็ลองคิดดูกันเอาเอง ทั้งนี้ยืนยันว่า กรณีดังกล่าวไม่ทำให้รัฐบาลเสียคะแนน เพราะทำไปตามอำนาจหน้าที่
เช่นเดียวกับการแชร์ภาพถ่าย และตั้งข้อข้อสังเกตุถึงความสนิทสนมส่วนตัวระหว่างตัวเองกับอดีตพระพุทธะอิสระ ซึ่งเห็นว่า โลกของโซเชียล เคยมีกันพูดมาหลายครั้ง จึงควรไปคิดไต่ตรองว่าเรารู้เรื่องอะไร และควรคิดในเรื่องนี้อย่างไร
ขณะที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์ สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ต่างปฏิเสธถึงการเข้าจับกุมนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ รวมทั้งสาเหตุที่ออกมาขอโทษแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บุกจับกุมนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธะอิสระจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ รวมไปถึงการตักเตือนเกี่ยวกับการปฏิบัติของตำรวจ โดยปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีพล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และประธานองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน เรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตำรวจชุดจับกุม โดยพล.อ.ประวิตร ได้ยกมือขอไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องใดๆ ด้วยสีหน้านิ่งเฉย พร้อมกับเดินขึ้นห้องประชุมครม.ทันที