พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจเปิดบ้านพักให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อมวลชน ชี้รัฐบาลควรเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน ส่วนเรื่องนาฬิกาหรูของ “พล.ต.อ.ประวิตร” ไม่กระทบต่อการบริหารประเทศแต่มองว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล
พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจที่เคยดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2537 เปิดบ้านพักย่านสุขุมวิทให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อมวลชน ซึ่งออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ได้ทำให้เกิดภาพลบกับรัฐบาลทหาร ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากกว่า ไม่พอที่กับทำให้รัฐบาลเสียเสถียรภาพได้
ส่วนกลุ่มต่าง ๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ พล.ต.อ.ประทิน มองว่า รัฐบาลเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นมากกว่า และเชื่อไม่สามารถจุดกระแสสังคมให้ออกมาต่อต้านรัฐบาลได้ ทุกครั้งที่ผ่านมาที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งในรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลทหารที่เข้มแข็งและอดทนต่อสถานการณ์ต่าง ๆ จึงเชื่อว่าไม่สามารถจุดกระแสสังคมได้ แต่จะต้องบริหารประเทศชาติด้วยความเข้มแข็งและอดทนและทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ซึ่งจะทำให้รัฐบาลทหารนี้สามารถอยู่ต่อได้ แต่อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนอย่างเร่งด่วนในขณะนี้ เนื่องจากพบว่าราคาสินค้าต่าง ๆ สูงกว่าที่ประชาชนจะสามารถแบกรับภาระได้ โดยอยากให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามากำกับดูแลให้มากกว่านี้
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ประทิน ยังมองถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนชี้แจงเรื่องการยืมเงิน 300 ล้านบาทจาก นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท และเป็นผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ ซึ่งในการให้สัมภาษณ์ช่วงหนึ่งบอกว่า การทำงานอาชีพตำรวจเป็นแค่ไซด์ไลน์นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง บอกว่า ตำรวจต้องจริงจังกับหน้าที่ เอาเครื่องแบบตำรวจมาหากินทางอื่นได้อย่างไร ทำให้ตำรวจขาดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นตำแหน่งที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ต้องทำหน้าที่เข้มแข็ง เป็นผู้ใหญ่เสนอถอดยศเลย เป็นเรื่องใหญ่ หมิ่นเหม่มาตรา 112 ด้วย คำพูดคนเราพูดไปแล้ว ขอโทษไม่หายหรอก กระเทือนถึงรัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และนายกรัฐมนตรีก็เสียหายเพราะเป็นคนแต่งตั้ง