ประเด็นโมเดลลิ่งโหดที่ขยายผลจากการตบเด็กเป็นการลงโทษและเด็กสาวโมเดลลิ่งได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโมเดลลิ่ง ในเรื่องของการนำเด็กที่อายุไม่ถึง 18 ไปทำงานเป็นโคโยตี้ตามสถานบริการ จนนำมาสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 3 ราย ได้เดินทางเข้ามามอบตัวแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา
ชมบรรยากาศได้ตามลิ้งค์นี้
ป๋าเกิด รวยจริงนะ เดินทางมามอบตัวตามหมายจับ ข้อหา กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และได้ลงมือกระทำผิดตามที่ได้สบคบกัน ที่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์
โพสต์โดย Bright TV เมื่อ วันอังคารที่ 19 กันยายน 2017
นายเกิดใหม่ รวยจริงนะ และนางสาวมลฤดี อินอ่อน เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปคม. โดยสังเกตุว่านายเกิดใหม่ มีท่าทีที่สบายใจและไม่ได้กล่าวอะไร แต่เมื่อช่วงเช้าได้โทรแจ้งกับผู้สื่อข่าวไบรท์ทีวีว่า หากตนผิดก็ว่าผิดหรือถูกก็ว่าถูก พร้อมที่จะมอบตัวและไปหาหลักทรพัย์ค้ำประกัน
ด้านพันตำรวจเอก มานะ กลีบสัตยุศย์ รองผู้บังคับการ ปคม. ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับขั้นตอนที่จะดำเนินการกับป๋าเกิด และนินิว ว่า ทางชั้นพนักงานสอบสวน จะทำการสอบปากคำเพิ่มเติม หากสอบปากคำไม่เสร็จจะส่งตัวไปฝากขังที่ สน.ทุ่งสองห้อง หากเสร็จภายในวันนี้จะส่งตัวไปที่ศาลเพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งจากการให้การเบื้องต้นสอดคล้องกับที่ผู้เสียหายว่ามีการดำเนินการนำเด็กไปจัดแสดงโคโยตี้จริง แต่ยังให้การภาคเสธเรื่องที่นำเด็กต่ำกว่า 18 ไปจัดแสดง หรือการค้าประเวณี
สำหรับคดีของนางสาว พรรณวรท หรือ นินิว ทางพนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำเพิ่มเติม และจะส่งตัวนินิวไปศาลทันที เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจพิจารณาคดีว่าสามารถประกันตัวได้หรือไม่ หากสามารถให้ประกันตัวได้ นินิวก็จะไม่ต้องเข้าเรือนจำ แต่หากไม่ให้ประกันตัว นินิวก็ต้องเข้าเรือนจำ ซึ่งเมื่อวานได้นำไปฝากขังไว้ที่ สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง
การสอบสวนเบื้องต้นมีรายงานว่า นางสาวนินิว ให้การว่า เป็นการเต้นโชว์อนาจารในร้านที่เป็นสถานบันเทิงย่านท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ มีร้านอยู่ 4-5 ร้าน และเด็กแต่ละร้านก็มีเกือบ 10 คน ทำมานานราว 1 ปี โดยเคยเป็นโคโยตี้มาก่อนทั้งที่เมืองพัทยาและภูเก็ต ต่อมามีสามีก็เป็นคนคุมร้าน แต่ต่อมาธุรกิจไม่รุ่งจึงเลิก และกลับมาเป็นโคโยตี้และอยู่ในสังกัดของป๋าเกิด ต่อมาป๋าเกิดจะหยุดกิจการ ตนเองจึงมาเปิดเป็นโมเดลลิ่งเอง และเลื่อนมาเป็นคนคุมเด็ก ซึ่งการรับเด็กเข้าสังกดัมีทั้งเด็กหญิง และสาวทอม เพื่อมาคุมเด็กผู้หญิงอีกที และทุกครั้งที่ส่งเด็กไปทำงานที่ร้านอาหารย่านนานา และซอยคาวบอย จะมีการตรวจบัตรประชาชน นางสาวนินิว ไม่เคยส่งเด็กไปค้าประเวณี และอ้างว่าการถูกจับกุมครั้งนี้ตนถูกกลั่นแกล้ง ทางเจ้าหน้าที่ จึงแจ้งว่าความผิดนี้ ไม่ใช่การขายบริการ แต่ก็เป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็ถือว่ามีความผิดฐานค้ามนุษย์
การจับกุมครั้งนี้ มาจากพยานหลักฐานของสาวโมเดลลิ่งหลายคนที่เดินทางมาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. และพลตำรวจตรี กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. ได้ ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ต่อศาลทั้งหมด 3ราย ประกอบไปด้วย นายเกิดใหม่ รวยจริงนะ เจ้าของโมเดลลิ่ง น.ส.มลฤดี อินอ่อน ภรรยาของป๋าเกิด และนางพรรณวรท ควบคุม หรือ นางสาวนินิว ในข้อหาเดียวกันคือ กระทำความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์และได้ลงมือกระทำผิดตามที่ได้สมคบกัน โดยการแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น ชักจูง ยุยง ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กแสดงออกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด ตาม พรบ.ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และพรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2556