ผวาหนัก! สาวศรีราชาถูกแฟนหนุ่มกู้ภัย คบได้ 4 เดือน ขังในร้านถ่ายเอกสารซ้อมจนเบ้าตาเขียว แถมยังถือปืนขู่เอาชีวิต สุดท้ายหนีรอดออกมาแจ้งความกับตำรวจ แต่คดีกลับไม่คืบ
โดยในวันนี้ (19มิ.ย.61) ผู้เสียหายได้นำหลักฐานมาร้องสื่อ ซึ่งเป็นภาพร่องรอยบาดแผลบริเวณใบหน้า และร่อยเขียวชำตามร่างกาย ของหญิงสาว วัย 37 ปี หลังถูกแฟนหนุ่มอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา วัย 38 ปี เพิ่งคบหาดูใจได้เพียง 4 เดือน ทำร้ายร่างกาย โดยถูกกังขังไว้ภายในร้านถ่ายเอกสารในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นร้านที่ทั้งคู่หุ้นกันเปิด พร้อมกับยึดอุปกรณ์สื่อสารของตนทั้งหมด เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา
โดยสาเหตุเกิดจากที่แฟนหนุ่มกู้ภัย ได้แอบส่องเฟซบุ๊กของตนเอง แล้วไปพบรูปคู่ที่ถ่ายกับสามีเก่าที่มีลูกด้วยกัน จำนวน 2 คน ทำให้ แฟนหนุ่มกู้ภัยเกิดอาการหึงหวง จนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกาย และใช้ปืนไม่ทราบขนาด ข่มขู่จ่อที่บริเวณศีรษะอยู่ตลอดเวลา และยังใช้ด้ามปืนตีที่ศีรษะจนแตกอีกด้วย
โดยหญิงสาวคนดังกล่าว เล่าว่า ในขณะนั้นก็ยังไม่รู้จะมีชีวิตถึงวันรุ่งขึ้นหรือไม่ เพราะแฟนหนุ่มได้ส่งโทรศัพท์ให้โทรไปสั่งเสียน้องสาว โดยระบุว่า “สั่งเสียซะ เพราะมึงอาจไม่มีชีวิตรอดถึงพรุ่งนี้” ภายหลังจากที่สั่งเสียเสร็จ แฟนหนุ่มก็ลงมือทำร้ายซ้ำอีก จนต้องขอโทษตลอดทั้งคืนเพื่อให้เชื่อใจ โดยเวลาผ่านไป ถึงช่วงเช้าของวันที่ 3 มิถุนายน แฟนหนุ่ม เริ่มมีอาการง่วนนอน จนหลับไป ตนเองจึงได้ใช้จังหวะนั้นแอบนำกุญแจมาเปิดประตูแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกไปได้ ก่อนที่จะเข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรหนองขาม แต่จนถึงทุกวันนี้คดีก็ยังไม่คืบหน้า ทำให้ตนเอง และครอบครัวอยู่อย่างหวาดระแวง เนื่องจากเกรงว่าจะถูกแฟนหนุ่มคนดังกล่าวมาทำร้ายร่างกายอีก เพราะยังคงคงปฏิบัติหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยอยู่ในพื้นที่หนองค้อ และยังไม่ถูกจับดำเนินคดี
นอกจากนี้ แฟนหนุ่มกู้ภัยยังได้แอบอ้างปลอมเฟซบุ๊กของตนเองขึ้นมา เพื่อไปหลอกยืมเงินของลูกค้าที่เข้ามาบริการถ่ายเอกสาร และโพสต์ด่าผู้ใช้เฟซบุ๊กรายอื่นๆ ที่รู้จักตนเอง อีกทั้งขู่อาฆาตจะฆ่าให้ตาย อย่างไรก็ตาม จึงวอนขอให้ตำรวจเข้าตรวจสอบบุคคลดังกล่าว พร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ทางทีมข่าวไบรท์นิวส์ได้สอบถามกรณีดังกล่าวไปยัง พันตำรวจโท สมชาย ตันศิริสุข รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองขาม ได้ให้ข้อมูลว่า หลังจากได้รับแจ้งความทางตำรวจได้ส่งตัวหญิงสาวคนดังกล่าวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ ส่วนเรื่องการทำเฟซบุ๊กปลอม ทางตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดจริงหรือไม่ ทั้งนี้ หากผู้เสียหายรายใดที่ถูกหลอกขอยืมเงินให้เข้ามาแจ้งความที่โรงพักได้ตลอด 24 ชั่วโมง
