เกิดเหตุวุ่นเมื่อพระอุปัชฌาย์วัดคลองน้ำเจ็ด อ.เมืองตรัง เข้าแจ้งความหลังจากโดนตำรวจน้ำกันตังเมากร่างล็อกคอตบศีรษะขณะยืนบิณฑบาตรแถมพยายามถลกจีวรพระต่อหน้าชาวบ้าน
22 มี.ค.60 เวลา 07.30 น. ที่ สภ.เมืองตรัง พระมหาศักย์ศรณ์ คงผล ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์อยู่ที่วัดคลองน้ำเจ็ด ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.มานพ (สงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำในพื้นที่ จ.ตรัง หลังจากที่เมื่อเช้าวันนี้ (22 มี.ค.) พระมหาศักย์ศรณ์ กำลังเดินบิณฑบาตรอยู่บริเวณถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง จู่ ๆ มี ด.ต.มานพ ขับรถเก๋งสีขาวมาจอดในสภาพมึนเมา กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง และนำเงิน 500 บาทมาใส่บาตร แต่ พระมหาศักย์ศรณ์ บอกว่ามากเกินไป ทำให้ ด.ต.มานพ ไม่พอใจใช้มือซ้ายล็อกคอ พระมหาฯ และใช้มือขวาตบศีรษะ พระมหาฯ 2 ครั้ง ก่อนที่จะพยายามถลกจีวรออก โดยบอกกับชาวบ้านที่ยืนดูเหตุการณ์ในบริเวณดังกล่าวว่าเป็นพระปลอม มาจากวัดสาลิการาม ต.โคกหล่อ ซึ่ง พระมหาฯ ชี้แจงว่าตนเป็นพระอุปัชฌาย์และเป็นพระจริง ๆ โดยได้จำพรรษาที่วัดคลองน้ำเจ็ดไม่ใช่วัดสาลิการาม แต่ ด.ต.มานพ ไม่เชื่อยังคงพยายามถลกจีวรพระออกจนมีชาวบ้านเข้ามาห้าม และนำตัว พระมหาฯ เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองตรัง ซึ่งมี ด.ต.มานพฯ ตามมาเอาเรื่อง พระมหาฯ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ต้องมาลากตัวออกไปเพื่อสงบสติอารมณ์
ในเวลาต่อมา ภรรยาและพี่ชายของ ด.ต.มานพ เดินทางมาขอโทษแทน ทำให้ พระมหาศักย์ศรณ์ ไม่เอาเรื่องแต่ขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและให้ ด.ต.มานพฯ ไปกราบขอขมาตนและเจ้าอาวาสวัดคลองน้ำเจ็ด ก่อนให้สัญญาว่าต่อไปจะไม่เมาสุราและประพฤติอย่างนี้อีก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ขอให้เป็นบทเรียน ส่วน พระมหาฯ อดฉันเช้าไปโดยปริยายเพราะความเมาสุราของ ด.ต.มานพ ซึ่งตำรวจได้เปรียบเทียบปรับ ด.ต.มานพเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท ซึ่งพี่ชายของ ด.ต.มานพ รับปากว่าจะพาไปขอขมาภายใน 1-2 วันนี้