พายุฤดูร้อนยังคงรุนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดถล่ม 9 อำเภอใน จ.ศรีสะเกษ บ้านเรือนพังยับกว่า 500 หลัง อ.ราษีไศล หนักสุดกว่า 413 หลัง พระสงฆ์บาดเจ็บ 2 รูป ขณะที่คุณยายวัย 76 ปีเผยวินาทีพายุถล่มบ้านพังหวิดดับพร้อมหลานสาว ด้านผู้ว่าฯ เร่งสำรวจความเสียหายช่วยเหลือด่วนแล้ว
เมื่อเย็นวานนี้ (20 มี.ค.60) นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายธนกร พูนติ้ม รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ นายสุพจน์ แสนมี นายอำเภอราษีไศล นายศุภวิชญ์ แซ่จึง นายกเทศมนตรี ต.เมืองคง เจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความประจำพื้นที่ศรีสะเกษ และนายก อบต.หนองแค ได้เดินสำรวจตรวจสอบความเสียหายอาคารสถานที่ราชการและบ้านเรือนของประชาชนในเขตพื้นที่ อ.ราษีไศล ที่ได้รับความเสียหายจากการเกิดวาตภัย
จากการสำรวจพบว่า ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นล้มลงทับอาคารสถานที่ราชการ บ้านเรือนประชาชนโดนลมพายุพัดเอาหลังคาหายไป เสาไฟฟ้าหักโค่นล้มหลายต้น ทำให้ทรัพย์สินบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยจากการสำรวจความเสียหายพบว่า อ.ราษีไศล มีบ้านเรือน โรงเรียน วัด ได้รับความเสียหายเสียหายมากที่สุดของ จ.ศรีสะเกษ บ้านเรือนพังเสียหายจำนวน 413 หลังคาเรือน และมีพระสงฆ์บาดเจ็บ 2 รูป ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าฯ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การเกิดวาตภัยในห้วงระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมา ปรากฏว่า จ.ศรีสะเกษ ถูกลมพายุพัดบ้านเรือนได้รับความเสียหายรวม 9 อำเภอ 17 ตำบล 27 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายรวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 500 หลังคาเรือน ซึ่งในจำนวนนี้มีสถานที่ราชการ โรงเรียน วัด คอกสัตว์ ยุ้งฉางข้าว สถานีอนามัย โรงพยาบาล ถูกลมพายุพัดเสียหาย บางแห่งถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับและส่วนมากหลังคาบ้านเรือนของชาวบ้านจะถูกลมพัดหายไป ซึ่งได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอที่มีพื้นที่ประสบวาตภัยดำเนินการสำรวจความเสียหาย และร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งรัดดำเนินการให้การช่วยเหลือประชาชนโดยการซ่อมแซมบ้านเรือนเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปพักอาศัยได้ตามปกติเช่นเดิมโดยด่วนแล้ว นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เหล่ากาชาด จ.ศรีสะเกษ นำเอาเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้การช่วยเหลือประชาชนเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นด้วยเช่นกัน
ผู้ว่าฯ จ.ศรีสะเกษ ยังกล่าวด้วยว่า ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบวาตภัยนั้น หากพบว่าบ้านเรือนเสียหายทั้งหลังจะดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการหลังละ 33,000 บาท ส่วนบ้านเรือนที่เสียหายเล็กน้อยก็จะช่วยเหลือตามสภาพข้อเท็จจริงของบ้านเรือนที่พังเสียหาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสำรวจความเสียหายเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะเร่งดำเนินการให้การช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนให้ประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยได้รับการสนับสนุนด้านกำลังพลทหารจากกองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่ศรีสะเกษ ส่งทหารมาช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนให้ประชาชนที่ประสบวาตภัยในครั้งนี้
ขณะที่ นางนิ่มอนงค์ แซ่จึง อายุ 76 ปี บ้านเลขที่ 65 ม.1 ต.เมืองคง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งถูกลมพายุพัดบ้านพังเสียหายทั้งหลัง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่ภายในบ้านกับหลานสาว ได้มีเสียงลมพัดมาอย่างรุนแรง จากนั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องรวมทั้งแรงลม ตนรู้สึกกลัวมาเพราะว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ทำได้เพียงแค่กอดหลานสาวเอาไว้และปล่อยให้ทรัพย์สินภายในบ้านเปียกน้ำฝนได้รับควายเสียหายหมด ตนจึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้การช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนที่พังเสียหายให้ตนด้วย เพื่อจะได้พักอาศัยอยู่กับหลานสาว 2 คนตามลำพังต่อไป