จากกรณีที่ครูทิพย์ อายุ 56 ปี อดีตข้าราชการครู ในอำเภอวังสะพุง จ.เลย ถูกชายหนุ่มวัย 40 ปี ชาวอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา มาหลอก ให้หลงรัก และมาขอแต่งงาน จึงตกลงปลงใจจะจดทะเบียนสมรสด้วย จากนั้นได้มาหลอกขอยืมเงินอ้างว่าจะเอาไปลงทุนในธุรกิจ ให้เช่าเครื่องเสียง จนสูญเงินไปกว่า 7 ล้านบาท วันนี้ฝ่ายชายออกมาโต้ ปฏิเสธไม่ได้หลอกลวง เผย ครูวัย56 ปี หึงหวง จนเกิดเรื่องบานปลาย
หนุ่มวัย 40 ปี เปิดเผยกับทีมข่าวไบรท์นิวส์ หลังถูกอดีตข้าราชการครู ในอำเภอวังสะพุง จ.เลย กล่าวหาว่าหลอกจดทะเบียนสมรส และหลอกให้โอนเงิน อ้างว่าจะไปลงทุนทำธุระกิจ โดยหนุ่มวัย 40 ปี รายนี้ก็ชี้แจงว่า เรื่องที่อดีตครูวัย 56 ปี ให้ข่าวมาทั้งหมด มีความจริงเพียง 20 เปอร์เซนต์
คือเรื่อง คือตนเองจดทะเบียนสมรสจริง เนื่องจากเป็นความต้องการของครู แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ไม่ใช่เชิงชู้สาว หรือหวังสมบัติ
ส่วนเงินที่ตนเองถูกกล่าวหาว่าเอาไปนั้น ความจริงคืออดีตครูได้ชวนเข้าบ่อน เพื่อหาเงินก้อนใหญ่ ซึ่งต่อมาทราบว่าครูไปเข้าบ่อนคนเดียว จึงน่าจะสูญเงินไปเป็นจำนวนมาก กรณีที่ครูหาว่าตนเคยทำร้ายด้วยการผลัก ตนยอมรับว่าวันนั้นมีปากเสียงกัน ก่อนที่ตนจะขึ้นจักรยานยนต์ แต่ครูมากระชากกระเป๋าตน ทำให้เกิดการกระแทกกับถนนจนบาดเจ็บ
ส่วนที่อดีตครูที่แจ้งความ ว่าตนเองฉ้อโกงนั้น ล่าสุดก็ได้มีการถอนฟ้องแล้ว จึงไม่คิดว่าควรจะออกมาพูดในเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าไม่เคยโกรธ และพร้อมจะพูดคุยกับครูเสมอ เพราะถือเป็นผู้มีพระคุณ อย่างไรก็ตาม เรื่องที่มันเกิดนบานปราย คาดว่ามาจากประเด็นความหึงหวง
ขณะที่ฝ่ายอดีตครูผู้เสียหาย ยังยืนยันว่า ถูกฝ่ายชายหลอกเอาเงินจริงๆ หลังจากคบกันประมาณ 5-6 เดือน และตกลงแต่งงานกันเมื่อ 14 กันยายนปี 2558 โดยจดทะเบียนสมรส แต่ยังไม่ทันได้อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา ฝ่ายชายก็บอกว่า จะไปทำงานที่กรุงเทพทันที
จากนั้นช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก็มีการติดต่ออ้างว่าจะทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องเสียง และให้ตนเองโอนเงินหลายครั้งรวมมูลค่าหลายล้าน และบอกว่าจะคืนให้ แต่สุดท้ายไม่ได้คืน ตนเองจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรวังสะพุงในคดีฉ้อโกง จนตำรวจสามารถตามจับมาได้มีการไกล่เกลี่ย โดยทางพ่อแม่ของฝ่ายชายมารับรองว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก และจะดูแลตนเป็นอย่างดีจึงใจอ่อนหลงเชื่อ และถอนฟ้องในชั้นอัยการ
นอกจากนี้อดีตครู ยังกล่าวอีกว่า ก่อนที่จะตัดสินใจตกลงปกใจ กับชายผู้นี้ เพราะภาพลักดูแล้วเป็นผู้ชายอบอุ่น และมาในคราบนักบุญ
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทีมข่าวในพื้นที่จังหวัดสงขลา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านพักของหนุ่มวัย 40 ปี ปรากฏว่าไม่พบนายต้นแต่อย่างใด มีเพียงพ่อและน้องสาวอยู่ภายในบ้านเท่านั้นและใช้ชีวิตตามปกติรวมทั้งบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนให้ฟัง แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อหรือแสดงตัว
โดยน้องสาวเปิดเผยว่า เรื่องนี้ไม่เชื่อว่าจะมีการหลอกลวง เพราะก่อนเกิดเรื่องครูก็มาอาศัยอยู่ที่บ้านที่อ.หาดใหญ่ เพิ่งเดินทางกลับและตนเองก็เป็นคนส่งเสื้อผ้าไปให้ ส่วนเรื่องการพนันยืนยันว่าแม้ว่าพี่ชายจะพาครูไปเล่นแต่ระยะหลังครูก็ไปเล่นกันพนันในพนันในประเทศเพื่อนบ้านเองด้วย แต่หลังจากที่ทั้งสองมีปัญหาเรื่องเงินความสัมพันธ์เริ่มสั่นคลอนและพี่ชายตีตัวออกห่างจึงเป็นไปได้ว่าครูอาจจะโกรธจึงเข้าแจ้งความว่าถูกพี่ชายหลอกเงิน7 ล้าน
ส่วนของเรื่องเงิน7 ล้านนั้นทางบ้านไม่รู้เรื่องเพราะพี่ชายก็ไม่เคยนำมาให้ที่ผ่านมาก็ส่งเงินมาช่วยเหลือครอบครัวบ้างแต่ไม่ได้มาก เพราะครอบครัวขณะนี้ก็ค่อนข้างลำบากรถยนต์กำลังถูกยึดบ้านยังผ่อนและเพิ่งเอาแหวนไปจำนำ หากพี่ชายหลอกเงินมาให้ทางบ้านครอบครัวต้องอยู่อย่างสบายกว่านี้
ส่วนจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างครูกับพี่ชาย น้องสาวของ นายต้นบอกว่า แม่เป็นคนแนะนำให้พี่ชายรู้จักกับครูเนื่องจากมีการติดต่อเรื่องการขายเครื่องสำอางด้วยกันส่วนเรื่องการจดทะเบียนสมรสก็เป็นเพราะช่วงหลังมีผู้หญิงมาอ้างว่าเป็นเมียของพี่ชายอีกคนครูจึงต้องการจดทะเบียนสมรสเพื่อให้เป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฏหมายซึ่งพี่ชายก็ยินดีไปจดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่เคยมีลูกมีเมียมาก่อน
