ความคืบหน้ากรณีข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ พาลูกสาววัย 19 ปีเข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมและตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ หลังจากลูกสาวถูก นายสมศักดิ์ ขันทวี อดีตสามีซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ แอบถ่ายคลิปอนาจารและลวนลามมานานหลายปีแต่คดีไม่คืบหน้า จนกระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และทาง ผอ. คนดังกล่าวเข้ารับทราบข้อกล่าวหาอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีกับพนักงานสอบสวน ซึ่งหลังจากนั้นศึกษาธิการจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับ ผอ. ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ปีที่แล้ว ล่าสุด ในวันนี้คณะกรรมการศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ มีมติปลดออกจากราชการหลังสรุปผลสอบว่ามีความผิดจริง
นายกิตติพศ พลพิลา ศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า หลังจากศึกษาธิการจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นายสมศักดิ์ ขันทวี ผอ.โรงเรียนชื่อดังใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ จากกรณีแอบถ่ายคลิปลามกอนาจารและลวนลามอดีตลูกเลี้ยง และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้ว โดยมีผลสรุปว่า มีความผิดตามที่มีผู้ร้องจริง ทางคณะกรรมการจึงมีมติให้ปลด นายสมศักดิ์ ขันทวี ผอ.โรงเรียนดังกล่าวออกจากราชการ และเสนอเรื่องเข้ามายังคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดพิจารณา โดยที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดมีมติปลด ผอ. ออกจากราชการเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นจะทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรส่งไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อให้ดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ต่อไป
นายกิตติพศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในที่ประชุม นายอรรถพล ตรึกตรอง ศึกษาธิการภาค 12 ซึ่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ประชุมเรื่องการพิจารณาการกระทำผิดวินัยร้ายแรงของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะการล่วงละเมิดทางเพศผู้เรียน และการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ซึ่ง นายอรรถพล เสนอแนวทางการปฏิบัติการลงโทษทางวินัยกับข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาที่ถูกร้องเรียน และคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตรวจสอบแล้วพบมีมูลความผิด และถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรงใน 3 กรณี คือ 1. กรณีล่วงละเมิดทางเพศผู้เรียน // 2. ทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และ 3. กรณีเสพหรือจำหน่ายยาเสพติด ให้ผู้มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 53 คือ ศึกษาธิการจังหวัด สั่งให้ออกราชการไว้ก่อนทุกราย เพื่อให้เร่งดำเนินการทางวินัยเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และป้องกันการกระทำความผิดทางวินัยของข้าราชการครูกับบุคลากรทางการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่รายการศึกษาในจังหวัด โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในข้อเสนอดังกล่าวและแจ้งไปยังเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 4 เขตให้ปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด
ให้ผู้มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 53 คือ ศึกษาธิการจังหวัด สั่งให้ออกราชการไว้ก่อนทุกราย เพื่อให้เร่งดำเนินการทางวินัยเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และป้องกันการกระทำความผิดทางวินัยของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่รายการศึกษาในจังหวัด ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์มีมติเห็นชอบในข้อเสนอดังกล่าว และแจ้งไปยังเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 4 เขตให้ปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด
ด้านข้าราชการครู กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องตนได้ออกปกป้องศักดิ์ศรีของลูกสาวกระทั่งผลสอบออกมาดังกล่าว ซึ่งตนและลูกสาวขอขอบคุณทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ศึกษาธิการจังหวัด และมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรีที่ให้ความเป็นธรรมกับลูกสาวในครั้งนี้