หัวข้อ…คุมเข้มสถานที่สำคัญ
ทำเนียบรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยเช้านี้การประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลวางกำลังตรวจเข้มงวดตั้งแต่การตรวจพาหนะ เข้าออก ทำเนียบรัฐบาล ที่รถยนต์ทุกคันจะเข้าทำเนียฯได้ต้องมีบัตรผ่านและสติกเกอร์อนุญาตเข้า – ออก ทำเนียบและที่เพิ่มเติมคือ ต้องถูกเปิดท้ายรถยนต์ และตรวจสอบอย่างละเอียดด้วย รวมถึงเพิ่มกำลังทหารพร้อมสุนัขดมกลิ่น ตรวจหาวัตถุต้องสงสัยรอบตึกไทยคู่ฟ้าและทำเนียบรัฐบาล
และ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา ทั้งภายในและพื้นที่รับผิดชอบโดยรอบ รวมทั้งตลาดคลองผดุงกรุงเกษม และตรวจสอบกล้องวงจรปิด เซนเซอร์ที่ติดตั้งเพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ พร้อมประสานทหารจากกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ เพื่อเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนพื้นที่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะในยามวิกาล และเพิ่มกำลังตำรวจสันติบาลกรณีที่นายกรัฐมนตรีปฎิบัติภารกิจ
ส่วนที่อาคารรัฐสภา การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเข้มงวดระบบรักษาความปลอดภัยรัฐสภา หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า .ว่า ได้หารือกับผู้อำนวยการสำนักรักษาความปลอดภัยรัฐสภา และแจ้งต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ถึงการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดสูงสุด เพิ่มความเข้มงวดอีก 1 เท่าตัวและมีหนังสือคำสั่งยกระดับจัดเวรรักษาการณ์ประจำจุดตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มจุดสำคัญและวางกำลังเพิ่ม 1 เท่าตัว พร้อมจัดเวรสายตรวจเดินเท้าตรวจสอบรอบบริเวณรัฐสภา และเพิ่มวงรอบตรวจให้ถี่ขึ้นจากเดิม 1 ชั่วโมงต่อรอบเป็นครึ่งชั่วโมงต่อรอบ ตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกบริเวณรัฐสภาอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภางดพักเวรยามในช่วงเวลานี้ ให้แม่บ้านคอยสังเกตุสิ่งผิดปกติตามห้องน้ำ ถังขยะ และสถานที่ล่อแหลม เช่นสโมสรรัฐสภาที่มีผู้คนจำนวนมาก กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด
ส่วนระบบกล้องวงจรปิด หรือ ซีซีทีวี บริเวณโดยรอบรัฐสภา ยอมรับว่าเคยมีปัญหา แต่ได้ทำการซ่อมแซมทุกจุดเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว และขณะนี้มีการเฝ้าระวังผ่านหน้าจอซีซีทีวีตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทางประธานและรองประธาน สนช. ย้ำว่ารัฐสภาเป็นสถานที่ที่มีบุคคลสำคัญเข้าออกซึ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่จากการข่าวแล้ว ยังไม่ได้รับรายงานว่ารัฐสภาจะเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่ก่อเหตุ
///////////////