จากกรณีของนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต ผู้ต้องหาฆ่ายกครัวนายวรยุทธ สังหลัง หรือผู้ใหญ่บัต อดีตผู้ใหญ่บ้านอ่าวลึก จังหวัดกระบี่ โดยชาวบ้าน 8 ราย ที่ขายฝากที่ดินให้กับบังฟัต กำลังจะโดนยึดที่ดิน หลังจากบังฟัตนำที่ดินไปจำนองไว้กับธนาคาร โดยไม่ผ่อนชำระ ล่าสุด ธนาคารเตรียมฟ้องบังคับคดีเพื่อยึดที่ดิน เตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และธนาคารของรัฐช่วยหาทางแก้ปัญหา
นายสุรชัย เชาวลิต อัยการจังหวัด คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดกระบี่ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือแนวทางแก้ปัญหากรณีที่ชาวบ้าน จำนวน 8 ราย ที่ถูกนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต ได้นำเอกสารสิทธิ์ที่ดินเหยื่อทั้ง 8 ราย รวม 12 แปลง ไปจำนองไว้กับธนาคาร แต่ขาดผ่อนชำระ ทำให้ทางธนาคารได้ฟ้องร้องดำเนินคดี และเตรียมฟ้องบังคับคดี โดยจะช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้น คือ การช่วยดำเนินการทางกฎหมาย และช่วยเหลือเยียวยาจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเหยื่อทั้ง 8 ราย ได้ทำนิติกรรมกับบังฟัต ในลักษณะการขายฝาก และทุกรายได้เซ็นชื่อโอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินให้กับบังฟัต แต่มารู้ภายหลังว่า บังฟัต ได้เอาไปจำนองกับธนาคารอีกทอดหนึ่ง เพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย โดยให้เหยื่อทั้ง 8 ราย ผ่อนชำระหนี้ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีของบังฟัต และภรรยา ในทุกๆ เดือน เพื่อจะได้ไปผ่อนชำระกับทางธนาคารอีกทอดหนึ่ง แต่ระยะหลัง บังฟัต ไม่ได้ผ่อนชำระ ทำให้ทางธนาคารฟ้องร้อง ส่งผลทำให้เจ้าของที่ดินเดิมต้องเสียที่ดินไปโดยไม่สามารถเอากลับคืนมาได้
ด้าน นายจรีย์ ระบุว่า นายวรยุทธ บุตรเขย อยู่ด้วยกันขณะที่ทำสัญญา โดยนายจรีย์ เป็นคนเซ็นต์โอนที่ดิน และไม่ทราบว่า บังฟัต จะเอาที่ดินไปจำนองกับธนาคาร เพราะเข้าใจว่าเป็นการทำสัญญาขายฝาก เพื่อเอาเงินมาให้บุตรสาว และบุตรเขย ต่อเติมบ้าน เป็นเงิน750,000 บาท ซึ่งนายจรีย์ ได้มีการฟ้องร้องต่อศาลให้เพิกถอนสัญญาที่ทำกับบังฟัต เพราะเป็นการทำนิติกรรมอำพราง เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยศาลจังหวัดกระบี่ได้นัดสืบพยาน แต่ทางทนายจำเลย ขอเลื่อนออกไป โดยให้เหตุผลว่าได้รับข้อมูลจากจำเลยไม่มากพอ ขณะที่รายอื่นๆ ก็ประสบปัญหาเดียวกัน แต่ก็ไม่มีเงินที่จะจ้างทนายไปฟ้องร้อง
ด้าน นายสนั่น ทองเนื้อขาว ยุติธรรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า วันนี้เป็นการรับฟังข้อมูลในกรณีที่เกิดขึ้นกับเหยื่อบังฟัต ทั้ง8ราย ที่ยื่นขอความช่วยเหลือกับสำนักงานยุติธรรมจังหวัด หลังทางธนาคารฟ้องร้องบังฟัต และเตรียมฟ้องบังคับคดียึดที่ดิน ทำให้ทางผู้ร้องทั้ง 8 ราย ได้รับความเดือดร้อน และไม่มีเงินที่จะซื้อที่ดิน หรือฟ้องร้องกับบังฟัต ซึ่งยังต้องหาข้อมูล และหลักฐานเพิ่มเติม รวมทั้งหาทางช่วยเหลือในด้านอื่นๆ เพราะในการช่วยเหลือทางกฎหมาย ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะต่อสู้คดีชนะหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเคยมีคดีในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งสุดท้ายศาลตัดสินให้แพ้คดี
ขณะที่ ธนาคารกรุงเทพ สาขากระบี่ ได้ยื่นฟ้องบังฟัต หลังไม่มีการชำระหนี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ล่าสุด ศาลตัดสินให้ธนาคารชนะคดี โดยบังฟัต ต้องชำระหนี้ให้แก่ธนาคาร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อบังคับคดี โดยธนาคารก็ไม่ทราบว่า บังฟัต ได้ทำสัญญาไว้กับเหยื่อ ทั้ง 8 ราย เพราะบังฟัต ได้รับโอนที่ดินจากเจ้าของทั้ง 8 รายแล้ว รวม 12 แปลง จึงมีสิทธิ์ที่จะนำไปจำนองธนาคารตามกฎหมาย ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนลูกหนี้ได้
ทั้งนี้ ในการประชุมวันนี้ จึงยังไม่มีข้อสรุป หลังจากนี้ก็จะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง โดยจะประสานไปยังธนาคารของรัฐ เช่นธนาคารออมสิน ธนาคาร ธกส. และเชิญผู้เชี่ยวชาญของธนาคาร มาร่วมกันหาทางออกต่อไป โดยจะนัดประชุมหารืออีกครั้ง กลางเดือนหน้า