มติ ครม. มีคำสั่งด่วน ย้ายปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี ขณะเดินทางไปราชการออสเตรีย หน้าห้องเร่งเก็บของย้ายกลับต้นสังกัด ลือสะพัด เหตุจากข่าวกระทรวงยุติธรรมถังแตก หมดเงินจ้างลูกจ้าง 2,000 อัตรา
บรรยากาศหน้าห้องนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พบเจ้าหน้าที่หน้าห้องนำลังกระดาษหลายใบเก็บข้าวของ เตรียมย้ายกลับต้นสังกัดกรมบังคับคดี ส่วนนายชาญเชาวน์อยู่ระหว่างเดินทางไปราชการที่ประเทศออสเตรีย และมีกำหนดเดินทางกลับในวันที่ 27 พ.ค.นี้
สำหรับนายชาญเชาวน์ หลังขึ้นปลัดกระทรวงยุติธรรมปีเศษ ได้พยายามสนองงานรัฐบาลทุกอย่าง แต่มีข่าวลือกระทรวงถังแตก เลิกจ้างลูกจ้างชั่วคราวกว่า 2,000 อัตรา กระทบต่อภาพลักษณ์ ประกอบกับคดีศาลอุทธรณ์ ให้รอลงอายา 2 ปี ในคดีการสั่งโยกย้าย พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ อดีตผู้บัญชาการ สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาฯโดยไม่ชอบ
ด้านนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบคำสั่งอย่างเป็นทางการ แต่พร้อมปฏิบัติงาน
สำหรับ นายวิศิษฏ์ ว่าที่ปลัดกระทรวงยุติธรรม ถือเป็นข้าราชการซี 10 ที่อาวุโสอันดับหนึ่งในกระทรวงยุติธรรม โดยก่อนหน้าโอนย้ายมาสังกัดกระทรวงยุติธรรม นายวิศิษฏ์เคยเป็นข้าราชการตุลาการ ตำแหน่งรองเลขาธิการส่งเสริมงานตุลาการ โดยในยุคแยกกระทรวงยุติธรรมออกจากศาลนายวิศิษฏ์ได้รับการทาบทามจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งขณะนั้นเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้มารับตำแหน่งรองอธิบดีกรมบังคับคดี ก่อนจะขยับขึ้นเป็นผอ.สำนักกิจการยุติธรรมอธิบดีกรมบังคับคดี และเคยมีบทบาทยกร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยร่วมกับนายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรมว.ยุติธรรม จนกระทั่ง คสช.ปฏิวัติ จึงถูกย้ายเข้ากรุผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ต่อมาพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี และอดีตรมว.ยุติธรรม ได้ดึงนายวิศิษฏ์ออกมารับตำแหน่งอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก เพื่อรับผิดชอบงานจัดระเบียบแก้ปัญหาเด็กแว้นซ์ และสถานบันเทิงเปิดเกินเวลา รวมถึงการจัดการจัดโซนสถานบันเทิงไม่ให้ใกล้กับสถานศึกษา