ผู้บริหารและคณะแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลพิจิตร รวมตัวกันออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไข พรบ.ประกันสุขภาพ ระบุ เป็นต้นเหตุที่ทำให้โรงพยาบาลในชนบทประสบกับภาวะขาดทุนสะสม โดยเฉพาะโรงพยาบาลพิจิตรนั้น ตอนนี้กำลังเผชิญกับวิกฤตทางการเงิน จนต้องจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าขอบริจาคเงินจากผู้ป่วยที่มารักษาแบบรายวัน 

วันที่ 28 ก.ค. 2560 นายแพทย์ วิริยะ เอี๊ยวประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิจิตร พร้อมคณะแพทย์พยาบาลที่เป็นระดับบริหาร จำนวนเกือบ 20 คน ร่วมกันเปิดใจแถลงข่าว ถึงภาวะวิกฤตการเงินของ รพ.พิจิตร ว่า ทุกวันนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลหรือ สป.สช. แบบรายหัว ประมาณ 3,000 บาทต่อคน แต่ต้องถูกเหมารวมรายจ่ายและเงินเดือน เจ้าหน้าที่บุคลากรต้องนำไปหักยอดข้างต้นอีก 2,004 บาท ทำให้เหลือเงินรายหัวเพียงแค่พันกว่าบาทเท่านั้น จึงทำให้ขาดสภาพคล่อง ส่งผลให้ทุกวันนี้ รพ.พิจิตร เป็นหนี้ติดลบมากถึง 198 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดสะสมพัวพันมาหลายปี

ผอ.รพ.พิจิตร กล่าวยินยันว่า ได้ทำทุกวิถีทางในการบริหารจัดการไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชน โดยทุกวันนี้ต้องใช้วิธีประชารัฐร่วมใจทอดผ้าป่าสามัคคี ขอรับเงินบริจาคจากผู้ป่วย จากผู้ใจบุญ แบบรายวัน ซึ่งก็ได้ตั้งเป็นเงินกองทุนบัญชีผ้าป่า เพื่อบริหารจัดการภายในโรงพยาบาลที่มีรูปแบบเป็นคณะกรรมการคอยตรวจสอบ ประกอบด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขา อาทิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินปัสสาวะต่อมลูกหมาก แต่ทุกวันนี้กลับกลายเป็นว่า มีบุคลากรที่มีคุณภาพแต่ยังขาดเครื่องมือหรืออุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย เหตุเป็นเพราะระบบบริหารจัดการที่ผ่านมาไม่สอดคล้องกับแนวทางของผู้ปฏิบัติ

 

ทางด้าน แพทย์หญิงชัญวลี ศรีสุโข หัวหน้ากลุ่มงานแผนกสูตินรีเวช รพ.พิจิตร กล่าวว่า ปัญหาการให้บริการนั้น ผู้ปฏิบัติต่างก็รู้ปัญหาแต่เป็นเพียงเสียงสะท้อนจากคนตัวเล็กๆ ไปไม่ถึงระดับผู้บริหาร ดังนั้นจึงขอเสนอให้แก้ พรบ.หลักประกันสุขภาพในมิติต่างๆ ทั้ง 14 ข้อ ที่เคยเสนอไปแล้ว และมี 4 ประเด็นหลักที่แพทย์ และพยาบาลของ รพ.พิจิตร อยากเสนอ เพราะหลายปีที่ผ่านมางบสนับสนุนที่บอกว่า รพ.พิจิตร ได้ค่าหัว 3,000 บาท แท้ที่จริงหักแล้วเหลือแค่พันกว่าบาท ที่จะใช้เพื่อการส่งเสริมป้องกันรักษาผู้ป่วย แต่แพทย์พยาบาลในชนบทก็กัดฟันแก้ไขจนผ่านพ้นวิกฤต จึงทำให้ไม่มีผลกระทบต่อผู้ยากไร้ แม้งบประมาณจะไม่พอ แต่จะทำให้ดีมากกว่านี้ลำบาก เหตุเพราะขาดเงินงบประมาณ

ส่วน นพ.เสรี วุฒินันท์ชัย หัวหน้ากลุ่มงานกุมารเวชกรรม รพ.พิจิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ควรแยกการเงินและค่าตอบแทนของหน่วยบริการภาครัฐออกจากค่าเหมาจ่ายรายหัว เพื่อให้มีเงินงบประมาณเท่าเทียมกัน ที่จะให้บริการประชาชน เพราะทุกวันนี้โรงพยาบาลใหญ่ได้มาก โรงพยาบาลเล็กได้น้อย บางแห่งได้เพียงแค่ 500 บาทต่อหัว ซึ่งทำให้ไม่เสมอภาค ทั้งๆ ที่สิทธิผู้ป่วย และสิทธิของแพทย์พยาบาลควรเท่าเทียมกันทั่วประเทศ แต่ทุกวันนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่

ในขณะที่ แพทย์หญิงเพ็ญศรี มโนวชิรสรรค์ รองผุ้อำนวยการ ด้านปฐมภูมิและทุติยภูมิ รพ.พิจิตร กล่าวว่า ทุกวันนี้สังคมผู้สูงอายุมีมากขึ้น การเจ็บไข้ได้ป่วยก็มีมากขึ้น เป็นเงาตามตัว โดยผุ้ป่วยเกือบ 20% เป็นผู้สูงอายุ ป่วยติดบ้านติดเตียงมีค่าใช้จ่าย ค่ายา ค่าดูแลรักษาอื่นๆ มากมาย แต่บางครั้งก็ติดที่ระเบียบการเบิกจ่าย วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับปรุงระบบการบริหารด้วยการแก้ไข พรบ.ประกันสุขภาพ

นายแพทย์ วิริยะ เอี๊ยวประเสริฐ ผอ.รพ.พิจิตร กล่าวสรุปปิดท้ายว่า วิกฤตปัญหาการเงินที่ส่งผลสะเทือนไปถึงประชาชนเกิดจากระเบียบและข้อกฎหมาย ดังนั้น จึงควรแก้ที่ พรบ.ประกันสุขภาพ แล้วให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม มองปัญหาให้รอบด้าน ทั้ง รายจ่าย รายรับ การบริหารจัดการหารายได้ในการให้บริการแบบระบบ “การจ่ายร่วม แต่ไม่ใช่การจ่ายเพิ่ม เช่นการทอดผ้าป่า, การจัดกิจกรรมการกุศล ให้บริการนอกเหนือบัตรทอง เช่น เสริมความงาม อย่างนี้เป็นต้น

สำหรับโรงพยาบาลพิจิตรนั้น เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ มี 405 เตียง มีผู้ป่วยนอก เฉลี่ยวันละ 1,000-1,200 คน มีบุคลากลทุกสาขารวมแล้วประมาณ 1,200 คน คาดว่าก่อนสิ้นปีนี้จะเปิดอาคารหลังใหม่ 6 ชั้น ที่ได้งบประมาณมาเพียงการสร้างอาคาร แต่ยังขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่สำคัญ อีกหลายรายการ จะต้องหาเงินจากผู้บริจาค เพื่อทำห้อง ICU หรือผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่ตามมาตรฐานต้องมี 10% หรือ 40 เตียง แต่ทุกวันนี้มีแค่ 12 เตียง รวมถึงห้องผ่าตัดก็มีเพียงแค่ 9 ห้อง ใช้มาหลายสิบปี ทุกวันนี้มีผู้ป่วยมีคนไข้ฉุกเฉินจะต้องผ่าตัด แพทย์ก็ต้องเข้าคิวแย่งห้องผ่าตัดกันเหมือนแย่งเก้าอี้ดนตรี ดังนั้นปัญหาเช่นนี้ รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข สปสช. และประชาชนควรต้องรับรู้ และหันหน้าเข้าหากันเพื่อปรึกษาหารือหาแนวทางแก้ไขกันต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปี 2561 นั้น ทางสำนักงานกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้เสนอของบประมาณไป จำนวน 164,675.24 ล้านบาท (หนึ่งแสนหกหมื่นสี่พันหกร้อยเจ็ดสิบห้าจุดสองสี่บ้านบาท) หรือ3,374.70 บาทต่อประชากร (สามพันสามร้อยเจ็ดสิบสี่บาทเจ็ดสิบสตางค์ ต่อประชากร) โดยคำนวณประชากรผู้มีสิทธิ์ 48.797 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 12,904.56 ล้านบาท หรือ 224.47 บาทต่อประชากร คิดเป็นร้อยละ 8.5

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้ต้องปรับเพิ่มงบกองทุนฯ ในปี 2561 เป็นผลมาจาก ต้นทุนบริการ ปริมาณการใช้บริการ และขอบเขตการบริการ รวมถึงนโยบายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งงบประมาณดังกล่าว เมื่อหักเงินเดือนบุคลากรจำนวน 43,828.28 ล้านบาท คงเหลือเป็นงบประมาณที่เข้าสู่กองทุนฯ จำนวน 120,846.96 ล้านบาท

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

“ชมพู่ อารยา” สะกดทุกสายตา! เปิดลุคแรกสุดหรูบนพรมแดง Cannes Film Festival 2025

เปิดลุคแรกสุดหรูบนพรมแดง Cannes Film Festival 2025 ของ เจ้าแม่พรมแดงเมืองคานส์ “ชมพู่ อารยา” สะกดทุกสายตาสุดๆ! เปิดตัวอย่างสวยสง่ากับ ชมพู่ อารยา ซุปต […]

ตัวแม่มาเอง !! “แน๊ต เกศริน” อดีตดาวหนังผู้ใหญ่ โชว์ล้างรถสุดเร่าร้อน ลั่น “รีบล้าง เดี๋ยวปอดบวม”

ไฟลุกไอจี! “แน๊ต เกศริน” โชว์ล้างรถสุดแซ่บ ลีลาขยี้ใจ แคปชั่นเด็ดกระแทกใจแฟนคลับ ทำเอาโซเชียลลุกเป็นไฟกันอีกรอบ! สำหรับเจ้าแม่ความเซ็กซี่ แน๊ต เกศริน […]

“แอฟ ทักษอร” เคลียร์ชัด! ปมดราม่าสายตาเปลี่ยน หลัง “นนกุล” ให้สัมภาณ์เรื่องแต่งงาน

“แอฟ ทักษอร” เคลียร์ชัด! ปมดราม่าสายตาเปลี่ยน ยัน “ไม่ได้เศร้า แค่ซึ้ง!” หลังให้สัมภาษณ์คู่ นนกุล กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล เมื่อหลา […]

โป๊หรอ ?? “ลำไย ไหทองคำ” ฟาดกลับชาวเน็ต แซะชุดโป๊ ลั่น !! คิดก่อน ค่อยมโน

อยู่ๆก็ดราม่า เมื่อ “ลำไย ไหทองคำ” ฟาดกลับชาวเน็ต แซะชุดโป๊ – ลั่น “เกลียดได้ แต่อย่ามโนไกล ช่วยลืมตาดู!” ยังคงเป็นที่จับตาเสมอ สำหรับนักร […]

“ดัง พันกร” ฟาดกลับชาวเน็ต หลังถูกแซะ กินหมูกระทะครั้งแรกในชีวิต

“ดัง พันกร” กินหมูกระทะครั้งแรกในชีวิต แต่เจอดรามา คอมเมนต์แซะแรง – เจ้าตัวตอบกลับทันควัน สร้างเสียงฮือฮาในโลกออนไลน์ไม่น้อย เมื่อนักร้องชื่อดังยุค 90 […]

รอเก้อ! ทบทวน แจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 รอดูแผนกระตุ้นศก.

รมว.คลัง รับทบทวน แจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 รอแผนทบทวนกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่สอดคล้องสถานการณ์ประเทศตอนนี้
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า