รวบลุงวัย 60 ใช้เครื่องตัดหญ้าฟันขาสุนัขสาหัส-โซเชียลแห่ประณาม (มีคลิป)

เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ จับกุมคุณลุงวัย 60 ปีใช้เครื่องตัดหญ้าฟันขาสุนัขสาหัสแล้ว สารภาพโมโหที่สุนัขผู้เคราะห์ร้ายไล่ผสมพันธุ์กันจนวิ่งลงไปในนาข้าวตนเองได้รับความเสียหาย ด้านโซเชียลมีเดียรุมประณามจี้เอาผิด พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป้า อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ออกหมายเรียกให้ นายเอก โคจำนง อายุ 60 ปี มาให้การที่ สภ.บ้านเป้า หลังจากก่อเหตุสลดเมื่อใช้เครื่องตัดหญ้าฟันสุนัขเพศผู้ตัวหนึ่งขณะกำลังติดสัตว์และวิ่งลงไปในนาข้าวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะวิ่งหนีไปนอนอยู่ที่บ้านของ นายสมศักดิ์ คำพิกุล อายุ 55 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.บ้านเป้า อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าว

ทั้งนี้ นายเอก ให้การรับสารภาพว่า ขณะที่ตัดหญ้าอยู่ที่บริเวณทุ่งนาข้างบ้านพัก ได้มีฝูงสุนัขจำนวนมากทั้งตัวผู้ตัวเมียซึ่งอยู่ในอาการติดสัตว์วิ่งไล่แย่งกันผสมพันธุ์กับตัวเมีย จนตกลงไปในทุ่งนาของตนเองจนได้รับความเสียหายจึงเกิดความโมโห ก่อนใช้เครื่องตัดหญ้าเหวี่ยงใส่เพื่อไล่ฝูงสุนัขดังกล่าว แต่ถูกที่ต้นขาสุนัขตัวหนึ่งจนร้องเสียงหลง วิ่งหนีแตกกระเจิงไปคนละทาง ตนเอวไม่คิดว่าสุนัขจะได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้

ต่อมาหลังได้รับหมายเรียกจาก ร.ต.อ.สุรศักดิ์ เบญจพรม พนักงานสอบสวน สภ.บ้านเป้า จึงได้เดินทางมาพบเพื่อให้ปากคำ หลังสอบสวนพนักงานสอบสวนเห็นผู้ต้องหาเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนี จึงได้ปล่อยตัวไปชั่วคราวและเพื่อรอผลพิสูจน์บาดแผลของสุนัขจากสัตว์แพทย์ก่อนจึงจะเรียกตัว มารับทราบข้อกล่าวหาและส่งตัวดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ต่อไป

ก่อนหน้านี้ มีชาวบ้านแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ สาขา อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ว่า มีประชาชนพบเห็นสุนัขเพศผู้ตัวดังกล่าวถูกเครื่องตัดหญ้าฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณขาหน้าและขาหลังของสุนัขตัวผู้อย่างจัง จนขาทั้ง 2 ข้างหวิดเกือบขาด เป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง และถูกทิ้งไว้หลายวัน จึงอยากให้ช่วยนำสุนัขดังกล่าวไปช่วยรักษา ซึ่งทาง จนท.กู้ภัย ออกติดตามตัวสุนัขดังกล่าวที่หลังได้รับบาดเจ็บได้วิ่งหนีไปนอนอยู่ที่บ้านของ นายสมศักดิ์ เจ้าของสุนัข ซึ่งหลังจากนั้นได้ช่วยทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำสุนัขไปรักษาต่อที่ร้านสัตวแพทย์ใน อ.ภูเขียว แต่เจ้าของสุนัขผู้เคราะห์ร้าย ไม่มีเงินรักษาและไม่กล้าเข้าแจ้งความ จึงขอความช่วยเหลือถึงเพจเฟซบุ๊ก WATCHDOG THAILAND และทาง WATCHDOG THAILAND กลุ่มคนรักสุนัข เผยแพร่ข่าว หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาโพสต์วิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานากันจำนวนมาก และต้องการให้ผู้ก่อเหตุรับโทษตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์