ดราม่าโซเชี่ยลเที่ยวนี้มาเป็นไตรภาคเริ่มจากการที่สัตวแพทย์ท่านหนึ่งโพสต์เรื่องราวของสุนัขพันธุ์ปอมตัวหนึ่งที่เจ้าของนำมาชันสูตรการตายเพื่อขอใบระบุสาเหตุการตาย โดยทางเจ้าของชี้ว่าเป็นความผิดของบริษัทขนส่งที่ทำให้สุนัขเสียชีวิตระหว่างเดินทาง
ทั้งนี้สัตวแพทย์เจ้าของเรื่องระบุว่าเจ้าของที่เป็น “นักศึกษาแพทย์” เกิดความขัดแย้งกับบริษัทขนส่งจึงจำเป็นต้องผ่าชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตแท้จริง จุดพีคอยู่ตรงนี้เพราะสัตวแพทย์พบประเด็นน่าสงสัยขึ้นหลังผ่าบริเวณกระเพาะอาหารพบยาเม็ดหลากสีจำนวนมากที่เจ้าของระบุว่าเป็นวิตามินบำรุง อีกทั้งเจ้าของสุนัขยังมีการโทรมาขอร้องให้สัตว์แพทย์ให้ระบุสาเหตุการตายว่า “ไม่พบสาเหตุ” อีกด้วย
Ep.3วันที่ 6 ก.ย. ตื่นแต่เช้า มีโทรศัพท์จาก นศพ: บอกว่าขอไฟล์ใบชันสูตรด้วยครับ ได้กี่โมงครับ…
โพสต์โดย Jakkarin Riangngoen เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน 2017
เรื่องราวดังกล่าวดูเหมือนยิ่งขุดลงใบก็ยิ่งพบความไม่ชอบมาพากลเมื่อคุณหมอเล่าต่อใน EP.3 เมื่อคุณหมอตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับยาเม็ดสีเหลืองหรือศัพท์ทางการแพทย์คือ Aldomet ที่นักศึกษาแพทย์เจ้าของหมาบอกว่าเป็นยาแก้เมารถ ซึ่งสัตวแพทย์ก็ย้อนไปว่าถึงจะเป็นยาแก้เมารถแต่มันมากเกินไปหากเทียบกับหมาที่หนัก 2 กิโลกรัม ก่อนบอกให้เจ้าของไปขอสั่งจ่ายยาจากโรงพยาบาลสัตว์ที่สั่งจ่ายยานี้ หลังจากนั้นพบว่านักศึกษาแพทย์คนดังกล่าวมีการโทรไปขอร้องให้โรงพยาบาลสัตว์เขียนใบสั่งจ่ายยา Aldomet แต่ก็ถูกปฏิเสธ
Ep4.โอ้โห ไม่จบ ใบชันสูตรที่ทางเราออกให้ กับใบชันสูตรที่ บ.ขนส่งสุนัขได้รับ มันช่างต่างกัน แบบนี้ ถือว่าจงใจมั้ยนะ?สุดท้ายนี้ อย่าขุดชื่อหรือลงรูปลงบัตรใดๆนะครับ พรบ.คอม มันแรงมากครับ
โพสต์โดย Jakkarin Riangngoen เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน 2017
สุดท้ายเรื่องราวยังไม่คลี่คลายเมื่อคุณหมอทำการโพสต์ภาพใบชันสูตรศพสุนัขที่ระบุว่าตนเองออกให้โดยระบุสาเหตุการตายตามจริงว่า “ได้รับยาเกินขนาด” แต่กลับถูกนักศึกษาแพทย์นำไปปลอมแปลงพร้อมเขียนสาเหตุการตายใหม่ว่า “สุนัขเพลียจากการเดินทาง”