รวบโจรแสบ! ขี่รถจักรยานยนต์ลุยเดี่ยวตระเวนงัดตู้เติมเงินมือถือทั่วกรุง สารภาพหาเงินซื้อยาเสพ
ภาพวงจรปิดจับภาพขณะที่ชายต้องสงสัยรูปร่างสันทัด มีรอยสักที่ขาทั้ง 2 ข้าง ใช้รถจักรยานยนต์แบบผู้ชายขนาดมินิ ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น หมายเลขทะเบียนไม่ชัด สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ใส่เสื้อคลุมสีสว่าง และนุ่งกางเกงขาสามส่วน มีเป้สะพายด้านหน้า ขับขี่รถมาจอดทำทีเติมเงินมือถือก่อนใช้คีมตัดกุญแจล็อกตู้งัดเอาถุงเงินในตู้ไปโดยใช้เวลาแค่ 3 นาที ในพื้นที่โรงพักแห่งหนึ่งสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล9 เมื่อคืนวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา
ล่าสุด ตำรวจนครบาลบางขุนเทียน สนธิกำลังจับกุมตัวนายอรุณสิทธิ์ ลิมประกมลศักดิ์ หรือเต่า อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ถูกจับกุมตัวได้ที่อพาร์ตเม้นท์แห่งหนึ่งในซอยกระทุ่มล้ม1 ถนนพุทธมณฑลสาย4 อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ขณะหลบหนีไปกบดาน พร้อมของกลาง ยาบ้า 20 เม็ด ไอซ์น้ำหนัก 1.28 กรัม รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิ๊กสีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน หมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีขาวพ่นสีดำอำพราง 1 ใบ เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ตอนก่อเหตุ 2 ชุด กระเป๋าเป้สีดำคาดขาว 1 ใบ กระเป๋าเป้สีดำคาดส้ม 1 ใบ คีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ 1 อัน เหล็กงัดยางรถยนต์ 1 แท่ง และอุปกรณ์ที่ใช้งัดแงะตู้เติมเงินโทรศัพท์อีกจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวน นายอรุณสิทธิ์ ยอมรับว่า ได้หลบหนีไปกบดานตามห้องเช่าย่านชานเมือง รอยต่อจังหวัดกรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร และนครปฐม หลังถูก สน.แสมดำ ออกหมายจับคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตั้งแต่ปี59 โดยเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ เล็กๆ อยู่ในซอยสวนหลวง ย่านกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร แต่ระยะหลังเกิดติดยาบ้าและไอซ์ อย่างหนัก โดยเฉพาะยาบ้าต้องหามาเสพให้ได้ วันละ 4-5 เม็ด หากไม่ได้เสพก็จะหงุดหงิดทำงานซ่อมรถไม่ได้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน จึงขี่รถจักรยานยนต์ลุยเดี่ยวตระเวนก่อเหตุงัดตู้เติมเงินมือถือ โดยจะเลือกเฉพาะตู้สีเขียวแดง เพราะงัดแงะง่าย และอยู่ตามแหล่งชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ฝั่งธน เพื่อหาเงินมาซื้อยาเสพ
ซึ่งการก่อเหตุแต่ละครั้ง จะหยิบยืมรถจักรยานยนต์ของคนรู้จัก หรือแอบเอารถที่ลูกค้าจอดไว้รอซ่อมมาถอดแผ่นป้ายทะเบียน บางครั้งจะเปลี่ยนแปลงชุดสีรถด้วย เพื่อตบตาไม่ให้ถูกจับได้ง่าย จากนั้นจะแต่งกายมิดชิดสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่ไปตามแหล่งชุมชนเพื่อสำรวจหาตู้เติมเงินที่อยู่ในจุดลับสายตา แล้วใช้คีมตัดเหล็ก และเหล็กงัดยางรถยนต์แงะเอาถุงเงินในตู้ ได้คราวละ 300-3,500 บาท ก่อนหน้านี้ จะก่อเหตุแทบทุกวัน วันละ 2-3 ตู้ จนจำไม่ได้ว่าลงมือตรงจุดใดบ้าง กระทั่งระยะหลังทราบข่าวว่าตำรวจกำลังตามล่าตัวจึงลดความถี่ลง และเปลี่ยนห้องเช่าไปเรื่อยๆ โดยห้องเช่าล่าสุดที่ถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมตัวนี้ก็เพิ่งเข้าไปขอเช่าอยู่ได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น
เบื้องต้น ทางตำรวจได้แจ้งข้อหา “ครอบครองยาบ้า และไอซ์เพื่อจำหน่าย และข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” กับนายอรุณสิทธิ์ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลแสมดำ ดำเนินคดีตามหมายจับคดีเก่า ส่วนข้อหาตามฐานความผิดงัดตู้เติมเงินมือถือ ซึ่งเชื่อว่า นายอรุณสิทธิ์ ก่อเหตุมาไม่ต่ำกว่า 100 ตู้ จะประสานพนักงานสอบสวนท้องที่ต่างๆ ทั้งในพื้นที่นครบาล และภูธรภาค7 นำหลักฐานมาอายัดตัวแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิด และทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์นั้น”