ไฟไหม้ย่านชุมชนใจกลางเกาะพีพี ร้านอาหาร ที่พัก ถูกเพลิงไหมวอดกว่า 25 คูหา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9ราย เป็นชาวต่างชาติ 6 รายคนไทย 3 ราย ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมินคาดว่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้าน
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่6 ก.พ.ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างหนักย่านการค้า เสียหายอย่างหนัก โดยต้นเพลิงมาจากร้านอาหาร อ็อกโทเบอร์ บริเวณซอยสลิงกี้บาร์ ก่อนอนลุกลามอาคารบริเวณใกล้ เคียงเป็นวงกว้าง จนวอดไปกว่า 25 คูหา เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีลมพัดแรง ผู้ประกอบการ ร้านค้า นักท่องเที่ยวต่างวิ่งหนีตายกันอลหม่าน เพราะเครื่องมือ และน้ำในการดับเพลิงมีจำกัดทำให้ยากลำบากในการสกัดเพลิง จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 1ชั่วโมง กระแสลมเปลี่บยนทิศทาง เพลิงได้เริ่มสงบลง ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็ช่วยกันลากสายน้ำที่ต่อมาจากแพ มาฉีดสกัดเพลิง พร้อมทั้งช่วยกันขนน้ำดื่มน้ำใช้มาช่วยกันดับไฟที่ยังคงคุกรุ่น เพื่อไม่ให้ไฟปะทุขึ้นมาอีก จนสามรถควบคุมเพลิงได้สำเร็จการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก ถูกเพลิงไหม้ รวมกว่า 25 คูหา และ ผู้บาดเจ็บ มีทั้งหมด 9ราย ส่วนใหญ่ถูกไฟลวกกระโดดจากที่สูง และสำลักควัน เป็นคนไทย 3 ราย ชาวอาร์เจนติน่า 3 ราย, บราซิล 2 ราย และ อิสราเอล 1 ราย โดยชาวอาร์เจนตินา 3 รายได้รับอนุญาตให้กลับแล้ว ส่วนชาวบราซิล 2 ราย และคนไทย 1 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลเกาะพีพี ซึ่งทั้งหมดอาการปลอดภัย ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไม่มีที่พักทางผู้ประกอบการบนเกาะพีพีได้มีการเปิดห้องพักให้ฟรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า สาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดจากแก็สในร้านอาหาร อ๊อกโทเบอร์รั่ว ก่อนเกิดประกายไฟ และลุกลามบริเวณใกล้เคียง แต่ก็ต้องรอให้กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง โดยในวันนี้ (7ก.พ.)
ทั้งนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ จะลงพื้นที่เกาะพีพีตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการป้องกันต่อไป