“รังสิมันต์ โรม” กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ขึ้นศาลให้การคดีจัดชุมนุมอยากเลือกตั้ง ถนนราชดำเนิน ย้ำเจตนาบริสุทธิ์ ผิดหวังที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดหนุน คสช. สุดลิ่ม ยันพร้อมชุมนุมใหญ่ ชี้เลือกตั้งไม่น่าเกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธในชั้นศาลและจะสู้คดี ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 18 มิ.ย.นี้ เวลา 13.30 น.
วันนี้ ( 27 เม.ย.61) ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 9.30 นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย หรือ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้ารายงานตัวต่อศาล และให้การในคดีเรียกร้องการเลือกตั้งที่บริเวณถนนราชดำเนิน (RDN50) เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2561ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ โรม เคยได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขัง โดยศาลเรียกหลักประกันเป็นเงินสด จำนวน 50,000 บาท เมื่อวันที่ 5 มี.ค.61
โดย นายรังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าสอบคำให้การ ว่า วันนี้ศาลนัดสอบคำให้การในคดีที่พวกตนจัดการชุมนุมที่ ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งทางอัยการได้สั่งฟ้องแล้ว ส่วนเหตุที่มีการสั่งฟ้องตนเพียงคนเดียวก่อนคนอื่นนั้น เนื่องจากศาลมีคำสั่งฝากขังตนคนเดียว ในขณะที่คนอื่นไม่ได้ฝากขัง ซึ่งตนก็ไม่ทราบเหตุผล ทั้งๆ ที่เป็นข้อเท็จจริงอย่างเดียวกัน เมื่อมีคำสั่งฝากขัง ตนได้ยื่นประกันตัวด้วยหลักทรัพย์เงินสด 50,000 บาท ทางอัยการจึงต้องฟ้องภายใน 48 วัน และฟ้องเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าฟ้องข้อหาอะไรบ้าง ซึ่งคงจะได้ทราบคำฟ้องในวันนี้ เบื้องต้นก็คงเป็นข้อหาตามที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งคือ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เป็นอย่างน้อย
“เรายืนยันว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำไปทั้งหมดมีเจตนาบริสุทธิ์ เราไม่เชื่อว่าการที่เราต้องการเห็นการเลือกตั้งเป็นความผิด ถ้าเกิดว่าการเลือกตั้งเป็นความผิด การเรียกร้องการเลือกตั้งเป็นความผิด ต่อไปนี้ในอนาคตประเทศไทยจะมีเลือกตั้งหรือเปล่า” นายรังสิมันต์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีของ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ที่ออกมายืนยันสนับสนุนรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เหมือนเดิม นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราเคยเรียกร้องว่าถ้าจะสร้างบรรยากาศทางการเมืองให้เปิดนำไปสู่การเลือกตั้งได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทางกองทัพต้องออกจากการเมือง และทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งสามารถเกิดขึ้น ปัญหาคือ ตราบใดที่ทางกองทัพยังคงสนับสนุน คสช. อย่างมืดมนเช่นนี้ การที่เราจะได้เห็นบรรยากาศทางการเมืองที่นำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็วก็คงยาก หรือหากจะมีการเลือกตั้ง ถ้าจินตนาการถึงการเลือกตั้งที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารมาคอยอัดวิดีโออยู่ตลอดเวลา คอยจับผิดอยู่ตลอดเวลาว่าสิ่งที่นำเสนอผิดกฎหมายอะไรที่ คสช. ได้กำหนดไว้หรือไม่ถ้าเป็นแบบนี้เราคงไม่สามารถแสวงหาการเลือกตั้งที่เป็นการเลือกตั้งจริง ๆ ได้
“ข้อเสนอที่ผ่านมาของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งคือ อยากเห็นบรรยากาศทางการเมืองที่มันฟรีและแฟร์ที่มันสามารถเปิดออกมาให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้ตัดสินใจด้วยตัวของเขาเองไม่ใช่มาคอยเซ็นเซอร์หรือกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆอันนี้คือข้อเสนอของเรา ดังนั้นเราจึงผิดหวังแน่นอนกับการที่เราได้เห็นท่าทีของทหารถึงอย่างไรเสียทหารก็กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชนถึงอย่างไรเสียทหารก็เป็นลูกหลานคนไทยเหมือนกันการที่เราได้เห็นเขามาสนับสนุน คสช.อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูก็เป็นสิ่งที่น่าเศร้าใจ น่าผิดหวัง” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการเตรียมตัวจัดชุมนุมใหญ่กลางเดือน พ.ค.นี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรามีความพร้อม ในช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา หลายฝ่ายก็ได้พักผ่อน แต่สิ่งที่อยากให้สังเกตจับตา คือการเลือกตั้งที่ยังไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่ การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับตีความกฎหมาย ย่อมส่งผลให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือน ก.พ. ปีหน้า ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ การเลือกตั้งไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน คนอยากเลือกตั้งยังคงเดินหน้าต่อไป และมีความพร้อมที่จะจัดกิจกรรมในช่วงเดือน พ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการฝากขังนายรังสิมันต์ในคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้งได้ยื่นคำร้องฝากขังนายรังสิมันต์ต่อศาลอาญา โดยแจ้งข้อหาว่าจัดการชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน ในที่สาธารณะ เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ข้อ 12 และกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 โดยนายรังสิมันต์ได้รับการประกันตัว อย่างไรก็ตาม ศาลสอบคำให้การ รังสิมันต์ โรม แล้ว ให้การปฏิเสธและจะสู้คดี โดยศาลจะนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ เวลา 13.30 น.