รัฐบาลจัดมหรสพสมโภชเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เนื่องในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ การแสดงม่านน้ำไฟประดับ “แสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณปกหล้า” นับหมื่นดวงเป็นครั้งแรกของไทย พร้อมทัพนักแสดงกว่า 5 พันคน
วันนี้ (13 พ.ค.)นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวในการเป็นประธานแถลงข่าวการจัดมหรสพสมโภช เนื่องในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ว่า กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดมหรสพสมโภช ระหว่างวันที่ 22 – 28 พ.ค. 2562 รวมเวลา 7 วัน ณ ท้องสนามหลวง และสถานที่จัดงานส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย โดยวันที่ 18 พ.ค. 62 เวลา 18.00 น. ซ้อมการแสดงโขน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และวันที่ 21 พ.ค. 2562 เวลา 07.29 น. มีพิธีบวงสรวงการจัดมหรสพสมโภช โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธี ณ ท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้(พระบรมมหาราชวัง) หลังจากนั้นเวลา 18.00 น.ซ้อมการแสดงในพิธีเปิดและซ้อมใหญ่การแสดงโขนเสมือนจริง ณ เวทีกลางท้องสนามหลวง
สำหรับพิธีเปิดงานจัดขึ้นในวันที่ 22 พ.ค. 62 เวลา 18.30 น. พร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีการแสดงชุดต่าง ๆ เช่น รำถวายพระพร “อาศิรวาททวยราษฎร์น้อมจอมราชัน” การแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ ชุด “พระบารมีมิ่งฟ้ารามาวตาร” จำนวน 3 ตอน ได้แก่ ตอน“สถลมาศเฉลิมราชจักรี” โดยมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง ตอน“เล่ห์อสุรีเมืองลงกา” โดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และตอน“บรมราชาภิเษกพระราม” โดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากรและสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ โดยถ่ายทอดสดพิธีเปิดผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 MCOT HD สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(NBT)และสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม(TGN) 170 ประเทศทั่วโลก
ส่วนเวทีการจัดการแสดงมหรสพสมโภช แบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วยเวทีกลาง ณ ท้องสนามหลวง จัดแสดงตั้งแต่เวลา 18.30-21.30 น. ตลอด 7 วัน ส่วนวันที่ 27 พ.ค.2562 มีการแสดง “นาฏศิลป์ร่วมสมัยรวมใจภักดิ์” มหกรรมการแสดงนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ โดยมี 10 ประเทศ เข้าร่วม ได้แก่ อินโดนีเซีย เมียนมา เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ อินเดียและจีน และวันที่ 28 พ.ค.2562 มีขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะจาก 4 ภูมิภาค มหกรรมกลองมิ่งมงคลและการแสดงพื้นบ้าน 4 ภาค เฉลิมพระเกียรติ
ส่วนที่ 2 เวทีย่อยมี 2 เวที ได้แก่ เวทีฝั่งศาลฎีกา และเวทีฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เริ่มแสดงระห่างเวลา17.30-18.30 น.. มีการแสดง เช่น หุ่นละครเล็กโจหลุยส์,โขนสด,กระตั้วแทงเสือ,มหกรรมเพลงพื้นบ้าน ประกอบด้วย ลำตัด เพลงฉ่อย อีแซว เพลงทรงเครื่อง,ละครชาตรี,โขนโรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตรโขนมูลนิธิคึกฤทธิ์,โขนโรงเรียนอำนวยวิทย์,หนังใหญ่วัดขนอน,หนังตะลุง(ภาคใต้),หุ่นสายเสมา
นอกจากนี้ ตลอด 7 วัน ในช่วงเวลา 21.30 -23.00 น. มีการจัดแสดงแสง สี เสียงม่านน้ำไฟประดับ ชุด“แสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณปกหล้า”โดยประดับไฟแอลอีดีสีต่าง ๆ นับหมื่นดวง ในรูปแบบของสวนดอกไม้และต้นไม้บนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร และนำเสนอเรื่องราวความงดงามของเจ้าพระยา สายน้ำแห่งชีวิต และพระมหากรุณาธิคุณที่แผ่ไพศาลไปยังพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศให้มีความสงบสุข ร่มเย็น เป็นฉัตรแก้วของปวงประชา ผ่านเทคนิคม่านน้ำและน้ำพุความยาวกว่า 40 เมตร รวมทั้งมีกิจกรรมตลาดวัฒนธรรม สาธิตการทำอาหารและขนมไทย ทั้งนี้สอบถามรายละเอียด สายด่วนวัฒนธรรม โทร.1765 และwww.m-culture.go.th
“นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการจัดแสดงแสง สี เสียงม่านน้ำไฟประดับ ชุด“แสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณปกหล้า” ซึ่งจะมีการประดับไฟแอลอีดีสีต่าง ๆ นับ 10,000 ดวง ทำเป็นต้นไม้ สวนดอกไม้ บนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร นำเสนอเรื่องราวความงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยา สายน้ำแห่งชีวิต และพระมหากรุณาธิคุณที่แผ่ไพศาลนำมาซึ่งความสงบสุข ร่มเย็น เป็นฉัตรแก้วของปวงประชา ด้วยเทคนิคม่านน้ำ และน้ำพุความยาวกว่า 40 เมตร ระหว่างเวลา 21.30 – 23.00 น. ตลอด 7 วัน โดยได้รวบรวมการแสดงทุกแขนงของไทยที่มีทั้งศิลปินแห่งชาติ ศิลปินพื้นบ้าน นักเรียน นักศึกษา เหล่าทัพ นักแสดงจากนานาประเทศ กว่า 5,000 คน แต่ละชุดการแสดงคัดสรรด้วยความพิเศษที่สุด เป็นการฟื้นฟูการแสดงตั้งแต่ต้นยุคกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันนี้ถือว่าหาชมได้ยาก” นายวีระ กล่าว