ลดพุง ลดโรค! สสส. ร่วมกับ สมอ. และสถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ ลงนามความร่วมมือ “สมอ. องค์กรแห่งความสุข” มุ่งลดโรค พัฒนาสังคมโต๊ะทำงานคนภาครัฐให้เอื้อสุขภาพ ชูโมเดล Happy Workplace หลังพบว่ากินไม่ถูกหลักโภชนาการ ก่อให้เกิดโรค หวังลดค่ารักษาพยาบาล ไม่ตายก่อนวัยอันควร
ข้าราชการ และบุคลากรของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ออกกำลังกายในโครงการ “สมอ. องค์กรแห่งความสุข” หลังจากผลการสำรวจคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากร สมอ. เมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา พบว่า สุขภาพของข้าราชการ และบุคลากร สมอ. ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง มากกว่าร้อยละ 60.8 มีดัชนีมวลกาย หรือค่า BMI อยู่ในช่วงภาวะน้ำหนักเกิน และยังพบอีกว่าบุคลากรของ สมอ. มีโรคประจำตัวร้อยละ 30.1 หรือเกือบ 1 ใน 3 ซึ่งโรคประจำตัวที่พบส่วนใหญ่ คือ ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง รองลงมา ได้แก่ เบาหวาน โรคหัวใจ และภูมิแพ้ ในส่วนพฤติกรรมการบริโภค พบว่า มากกว่าร้อยละ 53.5 มีการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ผัด ทอด อาหารที่ใส่กะทิ และเบเกอรี่ เกือบเป็นประจำ โดยมีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ที่มีพฤติกรรมการออกกำลังกายที่เหมาะสม โดยใช้เวลาแต่ละครั้งมากกว่าครึ่งชั่วโมงขึ้นไปเป็นประจำ ทาง สมอ. ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการดังกล่าว
โดย นายแพทย์ ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส. กล่าวว่า สสส. มีแผนสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กร ซึ่งได้ริเริ่มแนวคิดองค์กรแห่งความสุข หรือ Happy Workplace มาตั้งแต่ปี2547 ในปัจจุบันมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน นำแนวคิดดังกล่าวจัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กร หรือไปเป็นนโยบายขององค์กร เพื่อพัฒนาสุขภาวะของบุคลากรที่เป็นทั้งข้าราชการ และพนักงาน รวมไปถึงลูกจ้างประจำ และอื่นๆ ครอบคลุมในด้านสุขภาพกาย จิตใจ และสุขภาวะทางสังคม รวมไปถึงการให้ทักษะการจัดการด้านการเงิน กว่า 10,000 แห่ง โดยเป็นการสร้างความตระหนัก และเสริมความรู้ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาวะเชิงป้องกันเพื่อลดปัญหาความเครียด อุบัติเหตุที่เกี่ยวเนื่องกับงาน โรคที่เกิดจากการทำงาน โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่มีสาเหตุจากปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ ที่จะเกิดขึ้นจากการบริโภคอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ เช่น อาหารหวาน มัน เค็ม การออกกำลังกายไม่เพียงพอ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของบุคลากรในภาครัฐให้ดีขึ้น
ด้าน ดร.ศิริเชษฐ์ สังขะมาน อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากผลการศึกษาสถานการณ์ และแนวโน้มคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรภาครัฐระยะเวลา 3 ปี ด้วยแบบสำรวจองค์กรสุขภาวะ หรือ CU-QWL ตั้งแต่ปี2558-2560 พบว่า บุคลากรภาครัฐมีแนวโน้มเกี่ยวกับปัญหาด้านภาวะโภชนาการเกินกว่าร้อยละ 50 โดยเฉพาะการมีภาวะเสี่ยงต่อโรคมีอยู่เกือบร้อยละ 10 รวมทั้งมีพฤติกรรมบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงเพิ่มขึ้นด้วย จากร้อยละ 40.6 ในปี2558 เป็น 54.8 ในปี2560 ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่ากลุ่มผู้ที่มีอายุ 38-53 ปี เกิดความเครียดจากการทำงาน มีถึงร้อยละ 20 ซึ่งสอดคล้องกับการมีโรคไมเกรน ความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า มีเวลาทำกิจกรรมส่วนตัวในระดับน้อยถึงน้อยที่สุด ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจากเดิม ถึงร้อยละ 8 ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ทางนายธนะ อัลภาชน์ ผู้อำนวยการกองตรวจการมาตรฐาน2 รักษาราชการแทนรองเลขาธิการ สมอ. จึงทำงานกับ สสส. และสถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ เพื่อสนับสนุนและพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงาน จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น โดยตั้งเป้าในการดำเนินโครงการในระยะแรกด้วยกิจกรรมที่สามารถดำเนินการได้ทันทีในสถานที่ทำงาน คือ การออกกำลังกาย แบบง่ายๆ ในที่ทำงานด้วยท่าออกกำลังกายต่างๆ ที่ถูกต้อง และเสริมด้วยการมีชมรมกีฬาที่จัดตั้งขึ้นแล้ว ได้แก่ ชมรมแอโรบิค โยคะ แบดมินตัน เทเบิลเทนนิส ซึ่งมีสมาชิกรวมกันมากกว่า 200 คน และจะขยายชมรมเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทุกคนในหน่วยงาน นอกจากนี้ จะเข้ามาดูแลอาหารว่างเพื่อสุขภาพในการจัดประชุม ซึ่งจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรค และสะดวกในการเตรียมอาหารอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการสร้างความพร้อมทางด้านร่างกาย และจิตใจของข้าราชการ รวมถึงบุคลากรอย่างเหมาะสมในแต่ละส่วนงาน เพื่อรองรับการปฏิรูปประเทศที่กำลังก้าวไปสู่ประเทศไทย 4.0 ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติในขณะนี้