นับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.จนถึงวันนี้ เป็นวันที่ 7 แล้วสำหรับการออก หนังสือประกาศจากพระเถระสมาคมและเจ้าคณะปกครอง ถึงวัดต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามระเบียบ 9 ข้อ เพราะในปัจจุบันวงการสงฆ์เริ่มถอดถอยลง จากการไม่เคร่งในพระธรรมวินัย และ 2 ข้อจากทั้งหมด 9 ข้อ ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันในวงการสงฆ์ คือห้ามให้พระใช้สื่อโซเชียล และห้ามทางวัดจำหน่ายวัตถุมงคล วันนี้ ทีมข่าวไบรท์นิวส์ มาที่วัดสร้อยทอง จ.นนทบุรี เพื่อดูว่าภายในวัดได้มีการเริ่มปฏิบัติตามระเบียบเหล่านั้นหรือไม่ ติดตามรายงานได้จาก คุณทิพาธี อินทวงศ์พันธ์ ผู้สื่อข่าวไบรท์นิวส์
บรรยากาศที่วัดสร้อยทอง จ.นนทบุรี ก็ยังคงมีการบูชาวัตถุมงคลตามเดิม พร้อมกับป้ายเชิญชวนให้ทำบุญหรือหล่อพระ ทาง พระครูปลัดประเสริฐ ภัททปัญโญ ผู้ดูแลแผงเช่าพระเครื่อง บอกกับทางผู้สื่อข่าว ว่า การบูชาวัตถุมงคลเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนระเบียบที่ออกมานั้น ทางวัดได้ทราบแล้วแต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยหรือประชุมคณะสงฆ์กัน ขณะนี้ยังคงมีการตั้งแผงเช่าวัตถุมงคลตามปกติ เพราะที่วัดสร้อยทองไม่ได้มีจัดตั้งแผงภายในอุโบสถตามที่ระเบียบสั่งห้ามอยู่แล้ว อีกทั้งขณะนี้ ยังไม่มีหนังสือออกมาที่ชัดเจน จึงยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
ขณะที่ พระมหาไพรวัลย์ วรวัณโณ เป็นพระสงฆ์รูปหนึ่งที่มีการใช้โซเชียลและเปิดเพจในเฟซบุ๊กเพื่อพูดคุยกับพุทธศาสนิกชน หลังมีระเบียบ 9 ข้อออกมาที่ข้อห้ามให้พระสงฆ์งดใช้โซเชียลมีเดียซึ่งทาง พระมหาไพรวัลย์ บอกว่า หากจะห้ามไม่ให้ใช้โซเชียลในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ยาก เพราะทั้งเฟซบุ๊กหรือเพจต่าง ๆ ล้วนมีส่วนช่วยในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางศาสนา หากห้ามจริงการเผยแพร่กิจกรรมต่าง ๆ ให้ทั่วถึง ชาวพุทธก็จะลดลงเช่นกัน
ด้านประชาชนที่เดินทางมาที่วัดส่วนใหญ่ยังไม่ทราบระเบียบ 9 ข้อที่ออกมา แต่จากการพูดคุยแสดงความคิดเห็นด้วยกับระเบียบที่ออกมา ส่วนระเบียบที่ห้ามวัดวางแผงปล่อยเช่าวัตถุมงคลก็มองว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนในกรณีห้ามไม่ให้พระสงฆ์ใช้โซเชียลก็คิดว่าบางครั้งการเผยแพร่หรือประชาสัมพันธ์ในอินเทอร์เน็ตก็ถือว่าเป็นส่วนดีเช่นกัน
จากระเบียบที่ออกมาเป็นเพียงหนังสือแจ้งขอความร่วมมือเท่านั้น ยังไม่มีการบัญญัติโทษหรือแนวทางการปฏิบัติอย่างจริงจัง ทำให้ขณะนี้หลายวัดใน กทม. ยังคงมีท่าทีปฏิบัติที่ปกติเช่นเดิม