เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารตึกแ
เจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงรุดเข้าไปดับเพลิงบริเวณอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น ภายในซอยหลานหลวง 8 ถนนหลานหลวง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา (29 ต.ค.60) โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบแสงไฟลุกท่วมภายในชั้น 2 และลุกลามอย่างรวดเร็วไปยังชั้น 3-4 และ 5 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้า เจ้าหน้าที่เร่งใช้น้ำในการดับ ก่อนเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการตรวจสอบภายในตัวอาคารดังกล่าวพบร่างของผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นเพศชาย 1 ราย และเพศหญิง 1 ราย เสียชีวิตอยู่บริเวณชั้นดาดฟ้า และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่ง รพ.พระมงกุฏเกล้า ส่วนสาเหตุและความเสียหายอยู่ในระหว่างการสอบสวน
สอบสวนคนเฝ้าโกดังให้การว่า ระหว่างที่เฝ้าโกดังพร้อมกับคนงานอีก 2 คน ขณะนั่งอยู่ที่ชั้นล่าง ส่วนคนงานอีกคนพร้อมเมียนอนพักอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า อยู่ ๆ มีคนตะโกนว่ามีไฟไหม้ที่ชั้น 2 จึงรีบวิ่งออกมาดูพบแสงเพลิงกำลังโหมกระหน่ำและลุกลามอย่างรวดเร็ว ก่อนชาวบ้านจะรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้มาระงับเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) แพทย์นิติเวชรพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตป้อมปรายศัตรูพ่าย เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บม้วนผ้าขายส่ง ภายในซอยหลานหลวง8 จำนวน 2 คูหา พบศพนายบุญทอน มีทรัพย์ และนางสำราญ ทับหลักศิลป สองสามีภรรยา ถูกไฟไหม้เกรียม บริเวณห้องพักชั้นดาดฟ้า
จากการสอบปากคำ นายอาทิตย์ เสถียรวิทยกุล และนางชุลี เสถียรวิทยกุล สองสามีภรรยาเจ้าของตึกดังกล่าว ให้การว่า โดยปกติมีคนงานเฝ้าอยู่ 3 คน ช่วงเกิดเหตุหนีออกมาได้ 1 คน อีก 2 คน เป็นสามีภรรยา นอนพักที่ชั้นดาดฟ้า
ขณะที่ นายยอดขวัญ จุณณะปิยะ ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เปิดเผยว่า เพลิงได้ลุกไหม้ที่ชั้น2 ก่อนที่จะลุกลามขึ้นชั้น3 ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการควบคุมเพลิงนานกว่า 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า อย่างไรก็ตามอาคารดังกล่าวมีโครงสร้างไม่แข็งแรง เนื่องจากถูกความร้อนเป็นเวลานาน ทำให้พื้นบริเวณชั้น 3 และชั้น 4 เกิดแอ่นและโก่งตัว จึงต้องสั่งปิดอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ทั้ง 2 คูหา เป็นเวลา 15 วัน โดยห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในอาคาร พร้อมทั้งแนะนำอาคารพาณิชย์ใกล้เคียงไม่ให้ใช้เครื่องจักร และขนย้ายสิ่งของหนักออกจากอาคาร เพราะบริเวณผนังพบรอยร้าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดจากกองพิสูจน์หลักฐาน ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ขอขอบคุณภาพข่าวจาก : ศูนย์วิทยุพระราม199, เหนือ10-51