คดีสะเทือนขวัญ จากกรณีตัวแทนมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติสาขาภูเก็ต พาผู้ปกครองอายุ 39 ปี แม่ของ ด.ญ.วัย 15 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่สภ.โคกกลอยจังหวัดพังงา หลังลูกสาวถูกรุมโทรมหลายครั้ง รวมทั้งหมด40คน ในปี59 และถูกดำเนินคดีไปแล้ว3 คน ถือเป็นฝันร้ายของครอบครัว ล่าสุดผู้กำกับสภ.โคกกลอยสั่งชุดสืบระดมทุกโรงพักหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
จากกรณีตัวแทนมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติสาขาภูเก็ต พาผู้ปกครองวัย39 ปี
แม่ของด.ญ.น้อง อายุ 15 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พ.ต.ท.กิตติภูม ถิ่นถลาง สารวัตรสอบสวนสภ.โคกกลอย จ.พังงา เพื่อหาตัวและดำเนินคดีกับกลุ่มคนอีกจำนวน40 คน ที่ร่วมก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรโคกกลอย เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ทำการสอบสวนแม่เด็กแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้พาตัว ด.ญ.น้อง ผู้เสียหายไปเก็บตัวไว้ที่เซฟเฮ้าส์เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากก่อนหน้านี้มีโทรศัพท์ข่มขู่เด็กตลอดเวลา และรอประสานเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้าทำการสอบปากคำเด็กเพิ่มเติม ก่อนส่งเรื่องไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เพื่อขอสนับสนุนพนักงานสอบสวนมาช่วยคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วที่สุด เพราะคดีนี้ถือว่าได้รับความสนใจจากสังคม
ซึ่งหลังจากนี้จะต้องนำตัวเด็กไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจตามขั้นตอนและกระบวนการ ก่อนจะนำผลการตรวจมาให้เจ้าหน้าที่ประกอบเป็นหลักฐาน แต่เนื่องจากขณะที่เกิดเหตุการณ์ เด็กหญิงคนดังกล่าวยังมีอายุไม่ถึง 15 ปี ในชั้นสอบสวนจะต้องประกอบทีมสหวิชาชีพซึ่งมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย จึงทำให้ต้องมีการนัดหมายเข้าทำการสอบสวนผู้เสียหายพร้อมๆกัน ซึ่งหากพบจำนวนผู้ถูกกล่าวหา มีจำนวน40คน ตามที่แม่ของเด็กหญิงการแจ้งความเอาไว้สภ.โคกกลอย อาจต้องทำเรื่องส่งไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงาเพื่อขอสนับสนุน พนักงานสอบสวน ในการสอบปากคำผู้ที่ถูกกล่าวหาทั้งหมด ซึ่งผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และหมู่บ้านใกล้เคียง
นอกจากนี้ผู้ปกครอง เข้าให้ข้อมูลกับมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติสาขาภูเก็ต ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน พฤษภาคม2559ซึ่งพบว่าผู้กระทำชำเราในชุดแรกนั้นมีผู้ต้องหาจำนวน3คน ที่อัยการได้ทำการส่งฟ้องดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทราบว่าต่อมา ผู้ต้องหาชุดแรกได้มีการชักชวนคนในหมู่บ้านเข้ามาร่วมกระทำชำเรากับเคส จนกระทั่งมีการนำออกนอกพื้นที่และมีผู้ร่วมกระทำมากขึ้น ซึ่งได้ให้การว่ามีจำนวนมากถึง6ครั้งด้วยกัน โดยครั้งที่มากสุดมีผู้ร่วมกระทำชำเราถึง11คน ส่วนครั้งอื่น ๆ ก็จะมีประมาณ5-7คน โดยผู้ต้องหา3คนแรกจะเป็นผู้ที่พาเด็ก ไปยังบริเวณชายหาดจนถูกกระทำชำเรารวมแล้วตามรายชื่อ ที่ผู้เสียหายเล่าประมาณ 40คน โดยพบว่าการกระทำทุกครั้งจะเป็นช่วงเวลาที่ พ่อ และแม่ เด็กออกไปรับจ้างกรีดยางพารา ซึ่งเด็กให้การว่าทุกครั้งที่มีการกระทำเป็นการถูกบังคับทั้งสิ้น โดยมีการข่มขู่ว่า หากไม่ยอมจะมีการทำร้ายครอบครัว
ด้านชาวบ้านเกาะแรด กล่าวว่า ได้มีการแชร์เรื่องราวทางโลกโซเชียล ว่าชาวบ้านเกาะแรด ได้มีการรุมโทรมเด็กหญิงอายุ14ปี โดยมีการใช้คำพูดว่า 40 ทรชน ซึ่งชาวบ้านเกาะแรดรับไม่ได้กับคับพูดนี้ ซึ่งชาวบ้านอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่นำตัวผู้เสียหายมาชี้ตัวว่า40คนในหมู่บ้านนั้นเป็นใคร พวกเราไม่ต้องการอะไรมากนอกจากต้องการที่จะกู้ชื่อเสียงของชาวเกาะแรดกลับคืนมา ปกติพื้นที่ตรงนี้จะมีชาวบ้านในพื้นที่และชาวบ้านต่างถิ่นมาพักผ่อน นำอาหารมารับประทานชมพระอาทิตย์ตกน้ำ แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นไม่มีใครกล้าเข้ามาพื้นที่นี้อีกเลย โดยคนภายนอกมองว่าหมู่บ้านเกาะแรดเป็นหมู่บ้านอิทธิพล ชาวเกาะแรดอยากจะร้องขอความเป็นธรรม ว่าบ้านเกาะแรดเป็นชุมชนมุสลิมที่เงียบสงบ ใช้ชีวิตอยู่แบบเรียบง่าย ประกอบอาชีพรับจ้างและทำประมง และขอรับรองว่าไม่เคยเกิดเรื่องการรุมโทรมอย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ด้านพล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผบก.ภ.จว.พังงา กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อพบปะพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้าน กำนันและโต๊ะอิหม่าม เพื่อทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายด.ญ.ที่ถูกกระทำชำเรา และกลุ่มชาวบ้านที่ถูกกล่าวหา ซึ่งตอนนี้เด็กอยู่ในการดูแลของโครงการคุ้มครองพยาน โดยในวันที่ 5 ก.ย. อัยการและสหวิชาชีพจะมาสอบถามและขอข้อมูลจากเด็กด้วย
นายชานนท์ กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับด.ญ.ที่ถูกก่อเหตุ ทราบว่า ยังเหลือผู้ที่ก่อเหตุอีกเกือบ 40 คน ซึ่งมีทั้งคนในชุมชนและคนนอกหมู่บ้าน โดยมีทั้งวัยรุ่นและคนสูงอายุ ซึ่งลักษณะการก่อเหตุตอนแรกจะเป็นการก่อเหตุของคนในชุมชน หลังจากนั้นมีการชักชวนคนนอกหมู่บ้านมาก่อเหตุด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างสอบถามด.ญ.เพื่อขอข้อมูลในการดำเนินคดีเพิ่มเติม