สะเทือนวงการสีกากี! หญิงสาวไทยร้องขอความเป็นธรรมแฟนหนุ่มชาวจีนถูกตำรวจไทยนอกเครื่องแบบสกัด หามตัวเข้าซอยเปรี้ยวจับถอดเสื้อทำร้ายร่างกายก่อนฮุบเงินไป 200 บาท ขณะเข้าร้องทุกข์ที่ สภ.คลองหลวง ตำรวจเกลี่ยกล่อมให้ยอมความบอกเป็นเรื่องเข้าใจผิด
จากกรณีเพจแหม่มโพธิ์ดำโพสเรื่อง หนุ่มจีนเคราะห์ร้ายเจอตำรวจนอกเครื่องแบบสกัด วิ่งหนีตายนึกว่าโจรดักปล้น เจอตำรวจซ้อมเละยึดเงินไป 200 บาท ย่านรังสิตคลอง 3 ซึ่งเขียนโดนแฟนสาวของหนุ่มจีนผู้เคาระห์ร้ายว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ 01.00 น. เป็นเวลาที่แฟนหนุ่มชาวจีนเลิกงานและได้ขับรถกลับมาจากแถวถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา เพื่อมาบ้านพักแถว รังสิตคลอง 3 โดยจะกลับบ้านเป็นเวลานี้ประจำทุกวัน ระหว่างที่กำลังขับรถได้มีตำรวจนอกเครื่องแบบ ขับรถกะบะส่วนบุคคลมาประชิดรถจักรยานยน และตำรวจได้ขับรถไล่แฟนหนุ่มชาวจีนมาตรงหมู่บ้านอินเนสสิโอ้ แฟนจึงได้หยุดรถ ส่วนตำรวจรายดังกล่าวได้บอกให้แฟนลงจากรถ แต่แฟนได้วิ่งหนีไปหลบที่ป้อมยามของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เพราะไม่รู้ว่าเป็นตำรวจจริงหรือตำรวจปลอม
แต่ตำรวจตามไปจับ ต่อยเขาที่หัว ที่หน้าอก และตามลำตัว แฟนได้ร้องขอชีวิตแต่ไม่มีคนช่วยและหลังจากที่บุคคนอ้างตัวว่าเป็นตำรวจจับเขาใส่กุญแจมือได้นำตัวขึ้นกะบะไปในซอยมืด บริเวณซอยคลองสาม1/3 และไปหยุดอยู่ตรงที่เปรี่ยวๆ และนำตัวแฟนลงมา ซึ่งแฟนฟนุ่มชาวจีนขออณุญาตโทรกลับบ้าน แต่ตำรวจรายดังกล่าวไม่ให้โทรกลับยึดโทรศัพท์ไป
เมื่อถามว่าทำไมถึงต้องมาที่เปรี่ยวและไม่ตรวจให้เสร็จตั้งแต่อยู่ที่ป้อมยาม ตำรวจกลับบอกว่าเปลี่ยนใจตอนแรกจะพาไปโรงพักแต่พอดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรเลยพามาที่เปรี่ยวแทน แถมยังให้ถอดเสื้อผ้าและถ่ายรูปไว้ด้วย ก่อนที่จะขอดูเงินในกระเป๋าและนำเงินไปจำนวน 200 บาท
ล่าสุดทางทีมข่าวไบรท์นิวส์ ได้ประสานไปยังแฟนของผู้เสียหาย (ขอสงวนชื่อ) โดยเปิดเผยว่า ได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.คลองหลวงแล้ว แต่นายตำรวจที่ก่อเหตุได้เดินทางมาเกลี่ยกล่อมไม่ให้เป็นคดีความ บอกเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน และหากต้องการดูกล้องวงจรปิดต้องไปตอนประมาณ 21.00 -22.00 น.ถึงจะสามารถดูได้ ซึ่งตนกลัวว่าจะมีการลบคลิปจากกล้องวงจรปิดทิ้ง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะนำตัวแฟนชาวจีนไปตรวจร่างกายและนำหลักฐานไปแจ้งกรมศุลกากรทราบเรื่อง
ขณะ พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ โดยเปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวตนยังไม่ทราบเรื่อง ว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการติดตามเรื่องนี้ให้เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป โดยล่าสุดขณะนี้ได้ให้ฝ่ายสืบสวนเร่งตำรวจสอบเรื่องนี้แล้ว