เด็กหญิงวัย 3 ขวบป่วยประหลาด ตุ่มน้ำพุงพองผุดขึ้นเต็มตัว แม่เผยใจจะขาดเห็นลูกร้องโอดโอย แพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุ
มีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อว่า Panuwat Ruktubtiang ได้โพสต์ภาพเด็กหญิงวัย 3 ขวบป่วยเป็นโรคประหลาด มีตุ่มน้ำพุพองผุดขึ้นเต็มตัว โดยระบุว่า พี่สาวของเด็กหญิงคนนี้ได้มาหาเพื่อขอให้ช่วยเหลือน้องสาว ในขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พบว่าเด็กน้อยป่วยจริง ผู้เป็นแม่ต้องหยุดงานมาดูแล ทำให้ขาดรายได้ พร้อมเผย ใจจะขาดทุกครั้งที่เห็นลูกร้องโอดโอย ขณะที่แพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุ
เด็กหญิง จิรัชญา กมุทรัตน์ หรือน้องน้ำขิง อายุเพียง 3 ปี 9 เดือน ที่ป่วยเป็นโรคประหลาด มีเม็ดตุ่ม น้ำใสๆ และแผลพุพอง คล้ายอีสุกอีใสขึ้นเต็มร่างกาย จนต้องนอนรักษาตัวอยู่บนที่นอน ที่ถูกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ผ่านทางเฟสบุ๊กส่วนตัวของผู้ใช้ชื่อว่า Panuwat Ruktubtiang เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยเหลือน้องน้ำขิง
จากกรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบ น.ส.จิรา พรหมราช อายุ 37 ปี มารดาของน้องน้ำขิง อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 279/142 ถ.ห้วยยอด ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง เปิดเผยว่า ตนกับสามี คือ นายเฉลิมรัตน์ กมุทรัตน์ อายุ 40 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตชื่อ น.ส.จิรฐสุตา กมุทรัตน์ อายุ 16 ปี และน้องน้ำขิง ซึ่งขณะนี้กำลังป่วยเป็นโรคประหลาดอยู่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เธอเป็นเด็กที่ร่าเริง และแข็งแรงมาโดยตลอด โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนได้พาน้องน้ำขิงไปพบแพทย์เพื่อรักษาตัวที่โรงพยาบาลตรัง ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาทา โดยแพทย์ผู้ตรวจได้บอกกับตนว่า คาดว่าน้องน้ำขิงจะเป็นโรคภูมิคุ้มกันตัวเองบกพร่อง แต่ถือเป็นเคสที่หนัก ซึ่งทางแพทย์ได้นำชิ้นเนื้อที่บริเวณขา ตุ่มน้ำใส เลือด ส่งเข้ามาตรวจที่ห้องแล็ป กรุงเทพมหานคร และนัดมาฟังผลการวินิจฉัยอย่างละเอียดอีกครั้ง ในวันที่ 27 ก.ค.นี้
สำหรับอาการของน้องน้ำขิงนั้น ผู้เป็นมารดาเล่าวว่า น้องน้ำขิงจะบ่นเจ็บตลอดเวลา หากมีอาการเจ็บมากก็จะกินอะไรไม่ได้ ไม่มีใครจับตัวน้องได้เลยเพราะน้องจะร้องไห้บ่นเจ็บอยู่ตลอด โดยเฉพาะเวลากลางดึกน้องจะมีอาการไข้สูง ทำให้ทั้งครอบครัวไม่ได้พักผ่อนไปด้วย มันจะมีตุ่มขึ้นมาและแตก แต่ก็ไม่ยุบเพราะมันลามขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ ตอนเป็นแรกๆ ก็คล้ายอีสุกอีใส เด็กตัวแค่นี้ต้องมาต่อสู้กับโรคที่เกินจะรับไหว ไม่รู้จะมีแรงต่อสู้ไปได้อีกสักแค่ไหน ตอนนี้จิตใจของแม่จะขาดอยู่แล้ว จะมีทางไหนช่วยเหลือให้เด็กน้อยพ้นจากความทรมานของโรคนี้ได้ก็ไม่รู้ ตอนนี้ทำได้แต่ให้กำลังใจลูกสาวว่าหายไวๆ นะ หนูต้องเข็มแข็ง แม้แต่เสื้อผ้าที่ใส่ก็ต้องตัดออก เพราะถอดไม่ได้จะติดน้ำเหลือง
น.ส.จิรา กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันตนประกอบอาชีพเป็นแม่บ้านอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ตอนนี้ลางานมาดูแลลูกหลายวันแล้ว และคาดว่าอีกไม่นานตนก็จะต้องลาออกจากงาน เพื่อที่จะมาดูแลน้องน้ำขิงตลอดเวลา โดยก่อนหน้านี้ พี่สาวของน้องน้ำขิง คือ น้องสายบัว จะเป็นคนช่วยเช็ดน้ำเหลืองให้น้อง ในเวลาที่พ่อกับแม่ไปทำงาน แต่เนื่องจากโรงเรียนที่น้องสายบัวเรียนอยู่นั้น เป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งมีระยะทางไกลจากบ้านมาก ตอนนี้จึงต้องให้น้องสายบัวย้ายมาเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้านที่สุด จะได้สะดวกมากขึ้น
“อยากวิงวอนขอความช่วยเหลือจากคนที่มียาดี มีหมอดีใ ห้ช่วยเข้ามาดูแลน้องน้ำขิงด้วย อยากให้ลูกหายป่วยจากโรคนี้ ไม่ต้องการเงินหรือสิ่งของใดๆ ขอแค่ให้ลูกหายเท่านั้นก็พอ” ผู้เป็นมารดากล่าววิงวอน
น.ส.จิรา กล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนนี้มีบางคนแสดงความรังเกียจลูกของตน กล่าวหาว่าเป็นโรคเริมบ้าง โรคงูสวัดบ้าง และที่หนักสุด ว่าน้องเป็นโรคเอสไอวี ตนจึงอยากขอร้องว่า อย่าไปคาดเดา เมื่อผลการวินิจฉัยของแพทย์ยังไม่ออกมาว่าเป็นโรคอะไร ช่วยนึกถึงจิตใจคนเป็นแม่ สำหรับตนแล้วยอมทุกอย่าง ไม่ว่าจะทำยังไง ไม่อยากให้ลูกเจ็บ
ซึ่งจากกรณีที่น้องสายบัวพี่สาวน้องน้ำขิงได้โพสต์ลงเฟซบุ๊คถึงอาการของน้อง เพื่อที่จะต้องการทราบว่ามีใครเห็นหรือเคยเป็นก่อนหน้านี้ต้องการให้มีคำแนะนำเพื่อที่จะได้รักษาน้องน้ำขิงให้หายจากอาการโรคประหลาดนี้ได้ ซึ่งล่าสุดก็ได้มีผู้ใจบุญได้โทรติดต่อเข้ามาให้ความช่วยเหลือบางส่วนแล้ว
ทั้งนี้หากท่านที่จะช่วยเหลือเบื้องต้นในระยะนี้ เนื่องจากทางครอบครัวไม่มีรายได้เพราะต้องหยุดงานเพื่อมาดูแลน้องน้ำขิงอย่างใกล้ชิด โดยสามารถโอนเงินเข้ามาที่ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี จิรา พรหมราช เลขบัญชี 0161370452 หรือโทร 093-861-1993 และ 065-042-8458
