ชาวบ้านร้องซื้อหมู่บ้านเป็นโครงการที่กำลังขายและก่อสร้างอยู่ แต่ปรากฎมีการก่อสร้างที่ฝ้าเพดานติดกันทั้ง 7 หลัง (รวมสำนักงานขาย) ทำให้เกรงอันตรายที่จะเกิดขึ้น เพราะหากมีโจรขึ้นบนไปเพดาน ก็สามารถที่จะเดินทะลุไปยังบ้านอื่นๆ ได้ ทำให้เกิดความหวาดระแวงและกลัวอย่างมาก
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ ผู้ที่เดือดร้องเล่าว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 61 เวลาประมาณ 16.00 น. ภรรยาผมได้เข้าห้องน้ำชั้น 2 ซึ่งอยู่ติดกับห้องนอน พอเข้าไปพบว่าฝ้าเพดานที่เปิดขึ้นไปจะเจอหลังคา ถูกเปิดออก จึงแจ้งฝ่ายบริการที่สำนักงาน ฯ ซึ่งอยู่ถัดจากบ้านไปสองหลัง แต่มีแค่แม่บ้านอยู่ จึงบอกให้แม่บ้านไปแจ้งพนักงานว่าฝ้าถูกเปิดออกจากด้านบน รอประมาณ 10 นาทีกว่า ก็ไม่มีใครมา จึงเดินไปแจ้งอีกรอบ พนักงานบริการลูกค้าถึงจะมา แต่ก็ไม่มีช่างมาด้วยจนทิ้งเวลาไปนานมาก ถึงได้บันไดมาปีนดู ก็พบว่ามีร่องรอยถูกงัด พนักงานก็บอกให้ทาง เจ้าบ้านแจ้งความกับตำรวจ และพรุ่งนี้(11 พ.ค.) จะให้ช่างมาซ่อมให้ จึงไปโทรแจ้งตำรวจ และตำรวจได้ปีนขึ้นไปพบว่า หลังคาของบ้านทั้ง 7 หลังติดกัน มีเพียงลักษณะคล้ายๆแผ่นมีเนียมบางๆ กั้น และมีร่องรอยการถูกงัดเพื่อเดินผ่านยาวได้หลายหลัง แต่ก็ทำอะไรยังไม่ได้ เพราะไม่มีช่างของทางโครงการมาอธิบายถึงเรื่องของโครงสร้างและพาขึ้นไป
พอมา วันที่ 11 พ.ค. เวลาประมาน 10.00 น. มีตำรวจ วิศวะกร และพนักงานคนเดิมมาที่บ้าน เพื่อตรวจเช็คต่างๆ ทางเจ้าบ้านได้ขอให้ทางโครงการทำให้ปลอดภัยมากกว่าเดิม แต่ทางวิศวะกรปฎิเสธที่จะทำให้ และยืนยัน ว่าต้องทำเอง เพราะโครงสร้างเค้าเป็นแบบนี้ จึงไปแจ้งความ จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางมาดูที่สำนักงาน ซึ่งอยู่ถัดไปจากบ้านอีก 2 หลัง และมีหลังคาเชื่อมต่อกัน ได้พบร่องรอยนิ้วมือ และลักษณะคล้ายคราบเลือดเล็กๆ แต่ทางโครงการแจ้งว่า รอยนิ้วมือเกิดขึ้นเพราะช่างซ่อมไฟเคยมาเปิดซ่อมนานแล้ว ตำรวจจึงเก็บหลักฐานที่มีลักษณะคล้ายๆ คราบเลือดไปตรวจดูอีกที
จนวันที่ 12 พ.ค. เวลาประ 19.00 น. พนักงานกลับบ้านไปหมดแล้ว แต่ได้เปิดหน้าต่างด้านหน้าของสำนักงานทิ้งไว้ ทางลูกบ้านทั้ง 4 หลังที่อยู่ติดกัน รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย จึงแจ้งรปภ.และขอเข้าไปดูกับเพื่อนบ้าน พบว่าประตูรั้วหน้าบ้านไม่ได้ล็อค ประตูด้านหลังที่เข้าตัวบ้านก็ไม่ได้ล็อค สามารถเข้าไปในตัวบ้านและปีนขึ้นฝ้าไปลงบ้านหลังอื่นๆได้อย่างสบาย เนื่องจากโครงการก็ค่อนข้างมืด และไม่มีกล้องวงจรปิด
เจ้าของบ้านทั้งหมด จึงติดต่อแจ้งกับทางสำนักงานใหญ่ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขใดๆทั้งสิ้น
น.ส.ปัญฑารีย์ เหลืองปิยะธรรม เจ้าของบ้านเล่าว่า ซื้อบ้านหลังนี้มาเกือบจะสองปี ได้ยินเสียงบนเพดานห้องน้ำ เมื่อกลางสัปดาห์ก่อน จึงแจ้ง เจ้าหน้าที่ รปภ. และโทรแจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบพบว่าบ้านหลังแรกที่เป็นสำนักงานโครงการ มีคราบลักษณะคล้ายเลือดอยู่ ตำรวจจึงไปเก็บเป็นหลักฐานไว้เพื่อตรวจสอบ
ด้าน น.ส.ปาริชาติ มาตราราช เจ้าของบ้านอีกหลัง บอกว่า ขณะนี้รู้สึกหวาดกลัว ทั้งๆ ที่เลือกอยู่ใกล้ป้อม ของ รปภ. มากที่สุด แต่เมื่อทราบว่า มีทางเชื่อมบนเพดานติดกัน ทำให้เกรงอันตรายที่จะติดตามมา จึงวิงวอนให้ผู้บริหารโครงการช่วยแก้ไข เพิมความปลอดภัยให้แข็งแรงกว่านี้
Cr.แหม่มโพธิ์ดำ