กรณีผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายไปตัวไปพร้อมกับรถเก๋ง ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 60 ที่ผ่านมา ล่าสุดกรรมการสอบสวนของ อบต.ชำ เรียกพนักงานรวมทั้งญาติของ ผอ.สาวมาสอบสวนหาสาเหตุของการหายตัวไป ส่วนตำรวจเร่งดำเนินการยึดรถมาไว้ตรวจสอบแล้ว ขณะที่ฝ่ายแม่ วอนผอ.กองการศึกษา กลับมาให้ลูกสาวกราบในวันแม่แห่งชาติ
กรณี น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายไปกว่า 1 เดือนพร้อมกับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ พ่อแม่ญาติพี่น้องได้เข้าแจ้งความกับ สภ.บึงมะลู เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจช่วยติดตาม
ล่าสุด พล.ต.ต.สุระเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้เร่งรัดให้คณะชุดคลี่คลายคดีเร่งสืบสวนติดตามหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ อย่างเร่งด่วน จนกระทั่งพบรถเก๋งที่หายไป ซึ่งพ่อแม่ คาดว่า น.ส.จุฑาภรณ์ ยังมีชีวิตอยู่และอยากให้ติดต่อกลับมา
นางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี แม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวด้วยน้ำตา ว่า ในวันแม่ของทุกปี น.ส.จุฑาภรณ์ หรืออ้อย จะพาน้องใบเฟิร์น อายุ 8 ขวบ ซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวมากราบตนในฐานะแม่ใหญ่ทุกปี โดยจะซื้อขนมนมเนยและอาหารมากินกันในวันแม่ทุกปี แต่ว่าปีนี้ใกล้จะถึงวันแม่แล้ว อ้อยมาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยไม่สามารถติดต่อได้นานนับเดือน จึงอยากขอให้ลูกสาวติดต่อกลับมาหาแม่โดยด่วนที่สุดด้วย จะเป็นตายร้ายดีแม่ก็รักลูกเหมือนเดิม แม้ว่าจะไม่ได้ทำงานราชการเหมือนเดิม แต่ยังไงลูกก็ยังเป็นลูกของแม่เสมอ
นางแหลม กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นด้วยว่า อยากให้ น.ส.จุฑาภรณ์ กลับมาให้น้องใบเฟิร์น กราบในวันแม่แห่งชาติ ด้วย ซึ่งทางโรงเรียนจะมีการจัดงานวันแม่แห่งชาติ ครูที่ ร.ร.ต้องให้แม่ไปนั่งให้ลูกกราบไหว้ หากอ้อยไม่กลับมาแล้ว จะให้น้องใบเฟิร์นกราบไหว้ใคร ทุกวันนี้ตายายและญาติพี่น้องทุกคนจะบอกน้องใบเฟิร์นว่า แม่ไปอบรมยังไม่กลับมา ซึ่งน้องใบเฟิร์นจะถามว่า ทำไมแม่ไปอบรมนานมากยังไม่กลับมาซักที ตนไม่รู้ว่าจะบอกหลานอย่างไร เพราะว่าไม่อยากให้หลานสาวเสียใจที่เกิดเหตุเช่นนี้กับอ้อย ดังนั้น ตนจึงหวังว่าปาฎิหาริย์จะมีจริง ขอวอนให้อ้อยกลับมาบ้านให้ทันวันแม่แห่งชาติที่ทางโรงเรียนจะจัดงานนี้ขึ้น เพื่อให้น้องใบเฟิร์นได้กราบเท้าอ้อยในวันแม่แห่งชาติปีนี้ด้วย
ด้าน นายสุเรียน ปูพะมูล นายก อบต.ชำ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้นางยาพรอุ่นใจ รองปลัด อบต.ชำ ซึ่งตนได้สั่งแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการหายตัวไปของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้ทำการเรียกพนักงานทุกคนของ อบต.ชำ รวมทั้งญาติพี่น้องของ น.ส.จุฑาภรณ์ มาทำการสอบสวนหาสาเหตุที่ น.ส.จุฑาภรณ์ หายตัวไปในครั้งนี้ เนื่องจาก น.ส.จุฑาภรณ์ ขาดราชการเกินกว่า 15 วันแล้ว หากว่า น.ส.จุฑาภรณ์ มีเหตุสุดวิสัยเช่นถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวไม่สามารถมาปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ ก็จะเป็นสาเหตุสำคัญในการที่จะสามารถรับราชการต่อไป อย่างไรก็ตามเพื่อนร่วมงานทุกคนมีความห่วงใยขอให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง เพื่อที่จะได้มาทำงานร่วมกันเช่นเดิมต่อไป
ขณะที่ พล.ต.ต.สุระเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนเองได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นิพล บุญเกิด รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจยึดรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นของ น.ส.จุฑาภรณ์ ที่หายตัวไป โดยรถเก๋งได้ถูกนำมาทำสีอยู่ที่อู่รถไม่มีชื่อ ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญชู ศิรินนท์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.12 บ้านหนองกาน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดยนำเอารถยกไปยกรถเก๋งดังกล่าวมาเก็บไว้ที่ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อการตรวจสอบต่อไป
ขณะที่ นายบุญชู เจ้าของอู่รถ กล่าวว่า ตนเองได้รับการว่าจ้างจากชายคนหนึ่งชื่อ “เสี่ยตั้ม” มีอาชีพขายรองเท้า เพื่อให้ทำสีรถเก๋งคันดังกล่าว ค่าจ้าง 15,000 บาท โดยรับรถเข้ามาเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 60 ซึ่งเสี่ยตั้มแจ้งให้ทราบว่า ซื้อรถมาในราคา 200,000 บาท ต้องการแต่งสีรถใหม่ เพื่อนำเอาไปใช้งาน แต่ตนเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่า รถเก๋งคันดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไร ตนเองเพียงรับจ้างทำสีรถเท่านั้น
ด้านเสี่ยตั๋ม เปิดเผยว่า ซื้อรถมาจากน้องที่เป็นนายหน้าหาซื้อรถตามบ้านแล้วนำมาขายต่อให้ตน ส่วนรถคันนี้ น้องคนดังกล่าวได้ติดต่อซื้อขายผ่านเฟซบุ๊ก หลังตกลงราคาได้ทำการโอนลอย จ่ายเงินให้กับนายหน้า โดยตนไม่รู้จักหรือเคยคุยกับผู้ขายรถมาก่อน ยกเว้นน้องคนที่เป็นนายหน้าเอามาขายให้เท่านั้น
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี ออกหมายเรียกนายทหารยศ ร้อยเอกคนหนึ่ง เพื่อมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ในวันศุกร์ที่ 11 ส.ค. 60 เวลา 13.30 น. ที่ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งปรากฏว่า นายทหารยศร้อยเอกไม่อยู่ ทราบว่าไปปฏิบัติหน้าที่ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยได้มีเจ้าหน้าที่ทหารรับเรื่องไว้เพื่อดำเนินการแจ้งให้นายทหารยศร้อยเอกผู้ที่ถูกออกหมายเรียกได้รับทราบต่อไป
