แฟนสาวของ “เอ็ม” หลานอาม่าป้ายแดง ที่ถูกทำร้ายร่างกายในขณะที่ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน เดินทางมาแจ้งความที่ สน.สายไหม พร้อมเปิดใจซ้ำ รู้ว่าท้องยังทำได้ลงคอ ลั่น จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขณะที่ตำรวจออกหมายเรียกวันนี้
เมื่อช่วงบ่าย วันนี้ (24 ก.ค.) นายเชน รชตไพบูลย์ พร้อ ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นน้องสาวที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ถูกนายชลวิทย์ หิรัญชัชวาลย์ หรือหลานอาม่าป้ายแดงที่ชาวออนไลน์ตั้งฉายาให้ ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ มีอาการปวดจากการฟกช้ำ ได้เดินทาง มาที่สถานีตำรวจนครบาลสายไหม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายชลวิทย์ ภายหลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลภูมิพล เพื่อขอใบรับรองแพทย์
โดยผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนายชลวิทย์ หลังจากเมื่อวานนี้ได้เข้าลงบันทึกประจำวันไว้ เบื้องต้นจะแจ้งความให้ดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกาย รวมถึง กรณีที่มีการยืมเงินไป เป็นจำนวนเกือบ 150,000 บาทด้วย โดยตั้งแต่เกิดเหตุฝ่ายชาย พยายามติดต่อเข้ามาพูดคุย แต่ตนเองไม่ได้รับสาย เนื่องจากไม่ต้องการพูดคุยแล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนสาเหตุที่ทำให้ทะเลาะกันครั้งนี้ มาจากการที่จับได้ว่าฝ่ายชายคุยกับหญิงอื่น ซึ่งมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง และที่ผ่านมาก็มีการทำร้ายร่างการมาโดยตลอด ทั้งที่ทราบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ ตนเองยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
พ.ต.อ. ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลสายไหม ระบุว่า วันนี้ผู้เสียหายได้ไปตรวจร่างกายอย่างที่โรงพยาบาลภูมิพลอีกครั้ง เพื่อให้มีการยืนว่าได้รับบาดเจ็บต่อร่างกายจริง โดยเบื้องต้นได้รับรายงานว่า ผู้เสียหายมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะ ซึ่งเกิดจากการชกต่อย ไม่ใช่เกิดจากอาวุธ โดยเมื่อวานนี้ หลังผู้เสียหายมาลงบันทึกประจำวัน พนักงานสอบสวนได้มีการติดตามตัวนายชลวิทย์ หรือ นายเอ็ม ที่บ้านพัก พบว่านายชลวิทย์ ออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้ว และไม่กลับมาที่บ้าน ซึ่งตำรวจได้พยายามที่จะติดต่อทางโทรศัพท์แต่ติดต่อไม่ได้
พ.ต.อ. ธนกรณฑ์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดวันนี้ได้รับการประสานจากนายชลวิทย์ ว่าจะเข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ภายใน 7 วัน หลังจากนี้ แต่ด้านเจ้าหน้าที่ก็จะไม่รออย่างที่นายชลวิทย์ร้องขอ เพราะต้องทำตามหน้าที่ และให้เกิดความเป็นธรรมกับอีกฝ่ายที่ถูกกระทำ จึงทำการออกหมายเรียกภายในวันนี้ หากไม่มา 2 ครั้ง ก็จะออกหมายจับต่อไป หากออกหมายจับแล้ว ก็จะพิจารณาในการให้ประกันตัวด้วย
ส่วนประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ว่าผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ เลือดไหลมากกว่าผิดปกติ ทำไมไม่นำส่งโรงพยาบาลก่อน พ.ต.อ. ธนกรณฑ์ เปิดเผยว่า ขณะที่ผู้เสียหายมาลงบันทึกประจำวัน นั้น ใช้เวลาเพียง 10 นาที เท่านั้นก่อนนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งยืนยันว่าตำรวจได้ทำงานอย่างรวดเร็วไม่ได้ทำงานล่าช้า
มีรายงานว่า ได้มีการตรวจสอบประวัติของนายชลวิทย์ ปรากฎว่า เมื่อปี 2555 และ ปี 2560 มีคดีขับรถชนคนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในชั้นศาลแล้ว และมีการชดใช้ค่าเสียหายไปแล้วบางส่วนด้วย ทั้งนี้ได้ตรวจสอบพบอีกว่า เมื่อปี 2557 มีการทำร้ายร่างกายทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสด้วย ซึ่งรายละเอียดกำลังทำการตรวจสอบอยู่