เมื่อช่วง 5 ทุ่มงานนี้ 29 ต.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปราม สน.สายไหม ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง เข้าทลายแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ พร้อมจับกุม นายพิทักษ์กุล หรือเบนซ์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 266/2567 ลงวันที่ 29 ต.ค. 67 ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็น หรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การหลบหนี และการพาทรัพย์นั้นไป
นายวีรภัทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี นายกันต์ชยุด (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ จำนวน 15 คัน รถกระบะเสริมตู้ทึบ จำนวน 2 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์จำนวน 48 แผ่น แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ จำนวน 3 แผ่น โทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง อุปกรณ์สว่านไฟฟ้า และบัดกรี จำนวน 4 ชิ้น ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ 8 ใบ อะไหล่สวิตซ์สตาร์ท 14 ชิ้น โดยจับกุมได้ภายในบ้านเลขที่ 55/11 ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 55 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพ
การจับกุมครั้งนี้เป็นนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ผบ.ตร. ให้ทุกภาคส่วนเข้มงวดการป้องกันปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด อาวุธปืน การแข่งรถในทาง การปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรง ตลอดจนการจับกุมความผิดอาญาทั่วไป ทาง พ.ต.อ.รังสรรค์ ผกก.สน.สายไหม จึงมีข้อสั่งการให้เจ้าตำรวจฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปราม สน.สายไหม ออกหาข่าว และออกตรวจพื้นที่อย่างเข้มงวด กระทั่งได้รับข้อมูลว่าบ้านหลังหนึ่งในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 55 แขวงออเงิน เขตสายไหม ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปจับกุมมั่วสุมกันเป็นประจำ ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้รับการประสานงานจาก ฝ่ายสืบสวน สภ.บางประกง ว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีมาอยู่ในอู่รถดังกล่าวด้วย
ทางฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม จึงได้บูรณาการร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง ไปตรวจสอบเพื่อติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับทึ่อู่ซ่อมรถดังกล่าว และได้พบผู้ต้องสงสัยซึ่งตรงตามบุคคลที่มีหมายจับ นั่งมั่วสุมกันในลักษณะที่เชื่อได้ว่ากำลังกระทำผิดกฎหมาย หรือมีสิ่งของที่มีไว้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย และได้พบ นายพิทักษ์กุล (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ รวมถึง นายวีรภัทร์ และนายกันต์ชยุต ที่กำลังแยกชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์อยู่
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นรถที่แจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และยังพบรถจักรยานยนต์ ต้องสงสัยอีกจำนวน 14 คัน รถยนต์กระบะตู้ทึบ จำนวน 2 คัน ที่ใช้ในการขนย้ายรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หลังบ้านรวมถึงของกลางข้างต้น จึงได้ตรวจยึดมาตรวจสอบที่ สน.สายไหม
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็น หรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การหลบหนี และการพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจรเพื่อค้ากำไร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง พร้อมของกลางรถที่แจ้งหายไว้ รถกระบะที่ใช้ขนย้าย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดไว้ อีกจำนวน 14 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ และแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ ที่พบเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่ได้มีการแจ้งหายไว้ในหลายพื้นที่ทั้ง สภ.ปลายบาง สภ.เสม็ด สภ.บางปะกง สภ.บางดสาธง และสภ.แสนสุข ซึ่งจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป