เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ สนามบินนานาชาติอุบลฯ เกิดความโกลาหล เครื่องบินของสายการบินต่างๆ ไม่สามารถนำเครื่องลงจอดได้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย มีลมกระโชกแรง เป็นอันตรายต่อการลงจอด
นายกิติชัย สัจจลักษณ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ศูนย์อุตุนิยมวิทยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือแจ้งว่า ในวันนี้มีลมกรรโชกแรง ทำให้เครื่องบินที่จะทำการจอดลงที่สนามบินอุบลราชธานี ไม่สามารถจอดได้ จึงได้ตัดสินใจนำเครื่องบินไปลงที่สนามบินอื่น เช่น สนามบินขอนแก่น และสนามบินร้อยเอ็ดโดยบางลำได้บินกลับไปที่สนามบินต้นทาง
เนื่องจากความเร็วลมที่สนามบินอุบลราชธานีเกินกว่า 20 น็อต ซึ่งเกินมาตรฐานการบินจะต้องมีความเร็วลมไม่ 12 -13 น็อต ดังนั้นการที่มีความเร็วลมสูงกว่าที่เครื่องจะรับได้จึงเสี่ยงต่อความปลอดภัย กัปตันมีสิทธิที่จะนำเครื่องไปลงที่สนามบินสำรองหรือกลับไปยังต้นทางได้เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
สำหรับเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบนั้นมีทั้งหมด 6 สายการบิน เริ่มตั้งแต่สายการบินไลออนแอร์ 11.15 น. สายการบินนกแอร์ 12.15 สายการบินไทยสมายล์ เวลา 12.20 น. สายการบินไลออนแอร์ เวลา 14.00 น. สายการบินนกแอร์ 14.25 น. และสายการบินแอร์เอเชีย 14.40 น. และยังมีอีก 2 เที่ยวบินของนกแอร์ที่จะต้องบินขึ้นจากสนามบินอุบลราชธานี
ทางสายการบินได้จัดรถบัสไปส่งที่สนามบินร้อยเอ็ด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินอุบลราชธานี 180 กิโลเมตร ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ในช่วงระหว่างวันที่ 30 ต.ค. – 5 พ.ย. 60 จะมีอากาศเย็นกับลมกรรโชกแรง
ล่าสุด มีรายงานว่า เครื่องบินของสายการบิรนกแอร์ สามารถลงจอดได้แล้วที่สนามบินอุบลราชธานี เวลา 16.50 น. และจะกลับขึ้นบินไปยังสนามบินดอนเมือง ในเวลา 17.40 น. ต่อไป