น้ำท่วมจังหวัดเลยอ่วม ในรอบปีนี้น้ำเข้าท่วมซ้ำซากแล้ว 4 ครั้ง โดยระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ด้านชาวบ้านระทมต้องหนีน้ำไปอยู่ที่สูงและต้องทนกลิ่นเหม็นของเศษขยะที่ลอยน้ำ
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเลย หลังจากที่เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำบริเวณอำเภอภูหลวง จังหวัดเลย ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำเลย น้ำได้เอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร เป็นครั้งที่ 4 แล้วในรอบปีนี้ จึงทำให้ทำให้พื้นที่กลางน้ำ ในพื้นที่อำเภอเมืองเลย ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ท่วมซ้ำซาก ที่ชุมชนตลาดเมืองใหม่ หรือชุมชนบ้านล่าง และที่ชุมชนตรอกไก่ตาย ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเลยเอ่อล้นตลิ่งเข้าร่วมบ้านเรือน จำนวน 120 หลังคาเรือน นับตั้งแต่วันที่ 5 – 10 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร มีบ้านเรือนจำนวนหลายหลังคาเรือน ที่ถูกน้ำท่วมเกือบไม่เห็นหลังคา และยังมีเศษขยะลอยไปทั่ว ส่งกลิ่นเหม็นตลบไปทั่วบริเวณชุมชน มีหลายครอบครัวที่ยังคงอาศัยอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้านพัก เพราะยังห่วงทรัพย์สินภายในบ้าน โดยอาศัยญาติพี่น้องใช้เรือท้องแบนคอยส่งอาหารให้ ถึงแม้ว่าระดับแม่น้ำเลยจะลดลงตามลำดับแล้ว แต่ชุมชนทั้ง 2 แห่งนี้ ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ เนื่องจากบริเวณพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมขังเป็นลักษณะแอ่งกระทะ
เบื้องต้นเทศบาลเมืองเลยได้ตั้งศูนย์บริการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแล้วและหน่วยงานต่างๆ ได้นำถุงยังชีพมาให้การช่วยเหลือและหลังน้ำลดจะเข้ามาสำรวจสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป
ขณะที่พนังกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าที่ว่าการอำเภอป่าโมกหลังเก่า อาเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ได้มีน้ำทะลุพนังกั้นน้ำและพื้นเขื่อนเรียงหินกว่า 10 จุดสร้างความหวั่นวิตกให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นจนสูงกว่าตลิ่งกว่า 50 ซม. ทำให้ทะลุรอยต่อพนังคอนกรีตกั้นน้ำและไหลเข้าท่วมพื้นที่ซึ่งมีทั้งบ้านพักข้าราชการตำรวจ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอป่าโมกและบ้านเรือนประชาชน
ด้านชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า หากระดับน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแรงดันน้ำอาจจะทำให้พนังกั้นน้ำแตกและส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว ทุกวันนี้อยู่อย่างหวาดผวาเพราะอาศัยอยู่ห่างจากจุดที่น้ำทะลุพนังแค่ไม่ถึง 50 เมตร ตอนนี้เตรียมขนของไว้แล้วกลัวแต่เวลากลางคืนหากน้ำไหลเข้ามาจะหนีกันลำบาก อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยนำกระสอบทรายมาอุดรอยรั่วให้ ล่าสุดทางจังหวัดอ่างทองได้ประกาศเตือนให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งทั้งในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยรับมือกับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาท ปริมาณน้ำจากภาคเหนือที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช้าวันนี้วัดได้ 2534 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนที่บริเวณตลาดคุ้งสำเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาทมีระดับที่สูงจนล้นตลิ่ง ส่งผลให้เรื่อข้ามฟากที่ให้บริการจากฝั่ง อำเภอมโนรมย์ ไปยัง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานีต้องหยุดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากกระแสน้ำที่ล้นตลิ่งและไหลเชี่ยว เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยในการเดินเรือ ทำให้รถที่เคยใช้บริการเดินทางระหว่าง 2 จังหวัดต้องอ้อมไปใช้เส้นทางทางบก ที่มีระยะทางไกลขึ้นจากเดิมกว่า 25 กิโลเมตร
ขณะเดียวกันเขื่อนเจ้าพระยา ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ได้มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเมื่อวาน 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 2,188 ลบ.ม.ต่อวินาที่ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ลงไปจนถึงจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 50-60 ซ.ม. ประชาชนจึงควรยกของขึ้นที่สูง และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ”ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2560)” ฉบับที่ 8 ในช่วงวันที่ 10-11 ต.ค. 60 ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีลมกระโชกแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในที่ราบลุ่มไว้ด้วย
ทั้งนี้พายุดีเปรสชันที่ปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนบน ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของเมืองวินท์ ประเทศเวียดนามแล้ว และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศลาว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือของประเทศไทย ตามลำดับ ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งและมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง