บรรยากาศที่ตลาดจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับใน จ.เชียงราย ซบเซาไม่ค่อยคึกคักมากนักแม้ใกล้ถึงช่วงวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ ด้านเจ้าของสวนกุหลาบเผยไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนคาดเศรษฐกิจซบเซาหรือมีทางเลือกอื่น ๆ
8 ก.พ.60 บรรยากาศการจำหน่ายดอกกุหลาบและดอกไม้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลแห่งความรักหรือวาเลนไทน์ที่ จ.เชียงราย พบว่ายังไม่มีความคึกคักมากนัก โดยมีผู้เข้าไปสั่งซื้อดอกไม้โดยเฉพาะดอกกุหลาบจากสวนต่างๆ ที่ทำการเพาะดอกเพื่อนำไปขายตามตลาดต่างๆ ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ตามตลาดค้าปลีกยังไม่ถึงช่วงที่มีคนเข้าไปหาซื้อกันมากนักเช่นกัน
นายพูลศักดิ์ คิดมุ่ง เจ้าของสวนกุหลาบพูลศักดิ์ เลขที่ 259 ม.13 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย กล่าวว่าเดิมสวนของตนเป็นแหล่งเพาะต้นกุหลาบเพื่อการค้าส่งแต่ปัจจุบันต้องทำการปรับตัวครั้งใหญ่เพราะการหาซื้อสินค้าประเภทไม้ดอกไม้ประดับของตลาดทั้งในตลาด จ.เชียงราย และใกล้เคียงรวมถึงตลาดประเทศเพื่อนบ้านที่เคยสั่งซื้อคือ สปป.ลาว และเมียนมา ซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัดโดยไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน โดยสังเกตุได้จากการที่สวนของตนเคยปลูกดอกกุหลาบเพื่อรองรับเทศกาลวาเลนไทน์ปีละประมาณ 20,000 ต้น เดิมสามารถขายได้ 70-80% ของกำลังผลิต แต่ปรากฎว่าปีนี้ขายได้เพียงแค่ 20-30% หรือยอดขายลดลงมากกว่าครึ่งทำให้ตนต้องปรับตัวด้วยการลดการปลูกลงเหลือไม่ถึง 5,000 ต้นแล้ว
นายพูลศักดิ์ กล่าวอีกว่า สภาพดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะสวนของตนแต่เมื่อสอบถามไปยังรายอื่น ๆ ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน และหลายรายในต่างจังหวัดยังติดต่อขอส่งดอกไม้ไปให้ตนกระจายในพื้นที่เชียงรายอีกด้วยซึ่งตนก็จำเป็นต้องปฏิเสธไปเพราะมียอดสั่งซื้อเข้ามาน้อยเช่นกัน ทำให้ทางสวนต้องจำหน่ายดอกไม้ในราคาย่อมเยาว์เช่นเดิมโดยขายส่งดอกกุหลาบพันธุ์ต่างๆ เฉลี่ยต้นละ 30-35 บาท ส่วนราคาขายปลีกต้นละ 40 บาท โดยไม่สามารถขยับราคาขึ้นได้เลยเพราะตลาดมีความซบเซาอยู่แล้ว เดิมทีเมื่อถึงช่วงใกล้เทศกาลวาเลนไทน์จะมีตลาดภายในประเทศสั่งซื้อเข้าทีหลายพันต้น แม้แต่ตลาดในประเทศเมียนมาและ สปป.ลาว สั่งซื้อเข้ามาหลายร้อยต้น ทุกวันนี้ยอดลดลงกว่าครึ่ง ไม่นับรวมตลาดในประเทศที่มีสินค้าอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากกุหลาบเป็นทางเลือกให้ผู้ซื้อได้อยู่แล้วด้วย
นายพูลศักดิ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วย ว่า สำหรับดอกไม้จากประเทศจีนที่นำเข้ามาทางชายแดน จ.เชียงราย ไม่มีผลกระทบต่อสวนกุหลาบในประเทศไทยเพราะเป็นคนละประเภทสินค้ากันโดยจะเป็นดอกไม้ตัดกิ่งที่เข้ามามากเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น ดังนั้น สาเหตุที่ตลาดดอกไม้ซบเซาก่อนช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ปีนี้ยังไม่ชัดเจนแต่เชื่อว่ามาจากสภาวะเศรษฐกิจที่คนเก็บเงินเอาไว้หรือมีทางเลือกอื่นมากกว่า