จากกรณี นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง อายุ 31 ปี ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความที่ สภ.นางรอง ว่า ตนเองถูกรางวัลที่ 1 งวดที่ 16 สิงหาคม 2560 หมายเลข 715431 จำนวน 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้านบาท แต่สลากฯ ที่เก็บไว้ที่บ้านหายไป ซึ่งต่อมาทราบว่ามีคนนำลอตเตอรี่ดังกล่าวไปขึ้นเงินแล้วเมื่อวันที่ 23-24 ส.ค.ที่ผ่านมา ชื่อ “นายวิทยา” ชาว อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
ล่าสุด วันนี้ (28 ก.ย.) นายวิทยา ธนทรัพย์สิน อายุ 44 ปี และนางขวัญศิริ ทรัพย์สิน สองสามีภรรยา ชาว อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ได้เข้าพบผู้สื่อข่าวประจำ จ.ร้อยเอ็ด ยืนยันว่า ตนเองเป็นผู้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 ส.ค. 2560 หมายเลข 715431 จำนวน 3 ใบเป็นเงิน 18 ล้านบาท
นายวิทยา กล่าวว่า ตนมีอาชีพรับเหมาติดตั้งกระจกและอลูมิเนียม ซึ่งเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปกับเจ้าของโรงน้ำแข็งเอราวัณ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นผู้จ้าง เพื่อไปหาซื้อวัสดุก่อสร้างที่ร้านค้าใน อ.นางรอง และแวะทานอาหารที่ร้านตำแหลกในตัวอำเภอ ตรงข้าม รพ.นางรอง ขณะนั้นมีพ่อค้าเร่มาขายสลากฯ จึงซื้อไว้จำนวน 3 ใบ
กระทั่ง วันที่ 16 ส.ค.60 หลังการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล เวลาประมาณ 16.00 น. ตนจึงได้ตรวจรางวัลทางอินเทอร์เน็ต จากโทรศัพท์มือถือ จึงทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 3 ใบ ได้เงิน 18 ล้านบาท แต่ตนไม่อยากเป็นข่าว เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัยตัวเองและครอบครัว จึงไม่ได้ไปลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นวันที่ 23 สิงหาคม 2560 ได้ไปขึ้นเงินที่กองสลาก เพียง 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้านบาท ส่วนอีกใบให้ภรรยา ที่เป็นผู้ดูแลร้านรับติดตั้งกระจกและอะลูมิเนียมอยู่ที่ อ.สุวรรณภูมิ นำไปขึ้นเงินรางวัลจำนวน6ล้านบาท โดยแยกกันไปคนละวัน เพราะภรรยามีนัดพาพ่อไปหาหมอในวันที่ 24 สิงหาคมพอดี
นายวิทยา ได้กล่าวยืนยันว่า ลอตเตอรี่ถูกรางวัลเป็นของตนซื้อเอง และไม่เคยรู้จักกับนายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่ออกมาอ้างว่าสลากฯหาย รวมทั้งเด็กผู้ชายอายุ 15 ปี ที่ถูกสงสัยว่าเป็นคนขโมยสลากฯ แต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายวิทยา ยังกล่าวในตอนท้าย ว่า อยากขอความเป็นธรรมกับการเสนอข่าวที่ไม่ตรงข้อเท็จจริง เพราะข่าวที่ออกไป ทำนองว่าตนอาจเป็นคนขโมยลอตเตอรี่ไปขึ้นเงิน ทำให้ตนเสียหายมาก ลูกๆ 3คน ที่กำลังโตเป็นหนุ่มเป็นสาว ถีงกับถามว่า พ่อทำจริงหรือ จึงขอความเป็นธรรมด้วย ซึ่งตนพร้อมพิสูจน์ความจริงทุกอย่าง
ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ นายสุวัช จันทร์พลาง พ่อค้าขายลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง ยอมออกมาเปิดปากแล้ว โดยกล่าวว่า งวดประจำวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ตนได้ขายลอตเตอรี่ให้กับทั้ง 2 คนที่อ้างว่าถูกรางวัล 12 ล้านบาทจริง โดยขายให้กับนายพันธุ์ศักดิ์ ที่ด้านหลังโรงพยาบาลนางรอง ส่วนเสี่ย (นายวิทยา) ที่นำสลากไปขึ้นเงิน ตนขายให้ที่ร้านส้มตำชื่อร้าน “ตำแหลก” อยู่ตรงข้ามกับปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง แต่จำไม่ได้ว่าใครซื้อเลขอะไร เมื่อพูดจบ นายสุวัช ได้นำต้นขั้วมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย แต่ต้นขั้วที่ถูกรางวัลงวดดังกล่าวที่ซื้อจากตนเองมี 3 ใบ
นายสุวัช ยังกล่าวอีกว่า อยากจะชี้แจงให้สังคมเข้าใจ ว่าที่ตอนแรกตนไปเป็นพยานยืนยันว่านายพันธุ์ศักดิ์ ซื้อลอตเตอรี่กับตนเองจริง ก็เพราะตอนนั้นมีเพียงนายพันธุ์ศักดิ์ที่มาแสดงตัวว่า ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ชุดที่ซื้อกันตนเอง จึงรับปากไปเป็นพยานให้ แต่พอวันที่ 26 ก.ย. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถาม ว่ารู้จักกับเสี่ย คนที่ไปขึ้นเงินหรือไม่ ทันทีที่ตนเองเห็นหน้าก็ตอบว่าจำได้ เพราะเสี่ยคนดังกล่าวเคยมาซื้อลอตเตอรี่กับตนเองจำนวนหลายพันบาท ทั้งระบุว่าเคยเจอกับเสี่ย 3 ครั้ง คือ ครั้งแรกก่อนหวยออก เพราะเป็นคนขายลอตเตอรี่ให้เสี่ยที่ร้านส้มตำ ครั้งที่สองประมาณวันที่ 20 ก.ย. ก็เห็นเสี่ยมากินส้มตำที่ร้านเดิม ช่วงที่ตนไปเดินขายลอตเตอรี่ ก็ยังถามเสี่ยว่าถูกลอตเตอรี่หรือป่าว แต่เสี่ยก็ไม่ได้ตอบว่าถูกหรือไม่ถูก และครั้งที่ 3 เจอเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ตำรวจไปถามว่ารู้จักเสี่ยหรือไม่ จึงอยากจะขอความเห็นใจจากสังคม ว่าตนเองไม่ได้พูดโกหก และขอสาบานว่าไม่ได้มีเอี่ยว หรือรับเงินจากเสี่ยที่ไปขึ้นเงินรางวัลอย่างแน่นอน
