ผู้ปกครองนักเรียนใน ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้รวมตัวกันรวบรวมหลักฐาน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคณะกรรมการออมทรัพย์ครูในโรงเรียนฐานยักยอกทรัพย์ 10 ล้านบาท หลังจากก่อนหน้านี้ได้รวมตัวกันรวบรวมหลักฐาน เพื่อเข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอห้วยเม็กแล้ว
ช่วงเช้าวันนี้ นายพิบูรณ์ คำแหงพล ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน พร้อมด้วย นายพูนพิพัฒน์ เรืองแสน ตัวแทนศิษย์เก่า และชาวบ้าน 56 คน ได้เข้ายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก ให้เร่งติดตามตัวคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูในโรงเรียน 7 คน จากจำนวน 9 คน (เสียชีวิต 2) ที่ยักยอกเงินฝากของชาวบ้าน ผู้ปกครอง และนักเรียนไปพร้อมดอกเบี้ยประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อให้เข้ามาไกล่เกลี่ย หลังจากมีพฤติการณ์หลบเลี่ยง และหลบหนีออกจากพื้นที่ ก่อนที่ชาวบ้านจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้
นางคำตัน นามโคตร อายุ 68 ปี บอกว่า ได้เริ่มนำเงินฝากกับสหกรณ์ในโรงเรียนดังกล่าว มาตั้งแต่ที่เริ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2539 เพื่อเป็นเงินฝากให้ลูกตามคำชักชวนของคณะครูที่เป็นคณะกรรมการฯ และ ที่ผ่านมาไม่เคยถอนเงินจากบัญชี มีแต่จะฝากเพิ่ม ซึ่งเงินที่เอามาฝากจากเบี้ยผู้สูงอายุของตน เบี้ยยังชีพคนพิการของหลาน
และเงินที่เก็บหอมรอบริบจากการส่งเสียของลูกมาฝาก จนมียอดเงินต้นสะสม 180,000 บาท หวังจะถอนออกมาใช้ในยามเจ็บป่วยหรือยามจำเป็น เมื่อทราบว่าคณะกรรมการสหกรณ์ฯ เออร์ลี่ออกจากครูพร้อมยักยอกเงินไปด้วย ก็รู้สึกผิดหวัง เสียใจมาก จึงได้ร่วมกับเพื่อนบ้าน ผู้ปกครองเด็กที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย มาแจ้ง
ส่วนอีกราย คือ นายอัมพร นระศรี อายุ 64 ปี ก็เป็นอีกคนที่นำเงินมาฝาก และไม่เคยถอนเงินออกเลย เพื่อเป็นเงินออมให้หลาน จนถึงปัจจุบันมีเงินฝากสะสม จำนวน 350,000 บาท ซยังไม่รวมดอกเบี้ย แต่แล้วก็มาเกิดเรื่องก่อน ซึ่งไม่ต่างกับสหกรณ์ฯ ที่ตั้งมา 20 ปีล้มละลาย เพราะว่า คณะกรรมการฯยกชุด เออร์ลี่ และหนีหายไป
พนักงานสอบเวร สภ.ห้วยเม็ก บอกว่าา หลังสอบถามตัวแทนชาวบ้านผู้เสียหายต้องการไกล่เกลี่ย และขอเงินคืน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหา และในส่วนที่ว่าจะเข้าข่ายฉ้อโกง หลอกลวง หรือยักยอกทรัพย์หรือไม่อย่างไรนั้น ก็จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนในเชิงลึกอย่างละเอียดต่อไป และตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวและออกหมายเรียกคณะกรรมการ ที่ยังมีชีวิตอยู่มา
สอบปากคำให้เร็วที่สุด