ไม่กล้าสู้หน้า! เหยื่อสาวรายหนึ่ง ถูกอดีตผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่ง พร้อมพวกรวม 4 คน รุมโทรม และถ่ายภาพนำมาประจาน จนอับอายตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตาย ล่าสุด ผู้กำกับการเมืองลำปาง รุดตรวจสอบ และเยี่ยมเหยื่อผู้เสียหาย ขณะที่ผู้เป็นพ่อของเหยื่อถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่สงสารลูก หลังโดนรุมโทรม แต่ตำรวจกลับไม่รับแจ้งความ
น้ำตาของคนเป็นพ่อแม่ ซึ่งได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของลูกสาววัย 22 ปี ที่โรงพยาบาลลำปาง โดยมีญาติๆ เดินทางมาด้วย หลังจากเหตุกินยาฆ่าแมลงเพื่อฆ่าตัวตาย เนื่องจากอับอายที่ถูกอดีตผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่ง พร้อมพวกอีก 3 คน ล่อลวงไปรุมโทรมข่มขืน ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองลำปาง ก่อนที่จะมีคนนำภาพของลูกสาวนอนอยู่ในโรงแรม โดยมีอดีตผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวนอนอยู่ข้างๆ มาโพสต์ จนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
โดยแม่ของเหยื่อสาวได้เล่าให้ฟังว่า เหตุรุมโทรมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ตนเองได้ให้ลูกสาว และสามีเดินทางมาพบที่จังหวัดพะเยา แต่สามีของลูกสาวติดธุระ เดินทางมาไม่ได้ ลูกสาวจึงเดินทางมาเพียงลำพัง โดยสามีของลูกสาวเป็นคนส่งขึ้นรถโดยสาร จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้อีกเลย จนกระทั่ง วันที่ 15 กรกฎาคม ได้มีชายคนหนึ่งได้ใช้โทรศัพท์ของลูกสาวโทรเข้ามาพูดคุย โดยอ้างว่าเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดตาก พร้อมกับบอกว่าลูกสาวอยู่กับชายคนดังกล่าว ตนจึงขอร้องให้นำลูกสาวมาส่งให้ที่จังหวัดน่าน โดยชายคนดังกล่าวได้นำลูกสาวมาส่งให้ และกลับไป
เมื่อสอบถามลูกสาวว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่ตอบ จนกระทั่งอีก 2 วันถัดมา มีคนโพสต์ภาพของลูกสาวนอนอยู่กลับชายที่อ้างว่าเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองลำปาง จนลูกสาวทนความอับอายไม่ได้ จึงได้โพสต์ข้อความส่งมาให้ตนเองทางไลน์ พร้อมกล่าวขอโทษ กระทั่งมารู้ข่าวช่วงเย็นว่าลูกสาวได้กินยาฆ่าแมลงเพื่อฆ่าตัวตาย ก่อนที่เพื่อนบ้านจะนำตัวส่งโรงพยาบาล
จากนั้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองลำปาง แต่ก็ไม่ค่อยได้รับความสะดวกเท่าที่ควร ได้เพียงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานยังไม่ได้เป็นการดำเนินคดี ตนจึงมาร้องเรียนผ่านสื่อต่างๆ เพื่อขอความเป็นธรรมในวันนี้ เพราะแพทย์บอกว่าอาการของลูกสาวไม่สู้ดี มีโอกาสรอดเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งตนเองก็เตรียมจะรับลูกสาวกลับจังหวัดน่านด้วย
ด้าน พันตำรวจเอก ไกรสิทธิ์ พรหมปฏิมา ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง พร้อมหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน ทราบเรื่อง จึงได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลลำปาง เพื่อตรวจสอบข้อมูล และสอบปากคำญาติด้วยตนเอง ซึ่งจากการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลจุดเกิดเหตุ และเวลาที่เกิดเหตุอย่างแน่ชัด พร้อมจัดทีมสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตรวจสอบรายชื่อเข้าพักในโรงแรมดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ส่วนสาเหตุ ที่ญาติเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับเรื่องนั้น น่าจะเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาด ซึ่งทางตำรวจได้รับเรื่องราวร้องทุกข์แล้ว ตั้งแต่วันที่เข้าแจ้งความ แต่เนื่องจากผู้เสียหายเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว จะต้องได้รับความยินยอมโดยมอบอำนาจให้บุคคลในครอบครัว บิดา หรือมารดา มาแจ้งความแทน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แนะนำไปแล้ว และให้กลับมาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันถัดมา แต่ญาติก็ไม่ได้เดินทางมาพบ
ทั้งนี้ ทางตำรวจยืนยันว่า จะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกคน โดยคาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น
