เข้าสู่วันที่44 ของการหายตัวไปอย่างไร้เบาะแสของ “ผอ.อ้อย” วันนี้ญาติหวั่นภัยมืดสีเขียวยื่นคำร้องขอรับความคุ้มครองจากยุติธรรม จ.ศรีสะเกษ ขณะที่เพื่อนสนิท ผอ.สาวเผยชายแต่งกายคล้ายทหารหลายคนมาวนเวียนแล้วจอดรถนั่งดูหน้าบ้านหลายครั้ง
วันนี้(17 ส.ค.60) ที่บ้านเลขที่ 65 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ น.ส.หมายปอง อุ่นอ่อน อายุ 39 ปี พี่สาวของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ หรือ” ผอ.อ้อย” ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย นายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย ซึ่งเป็นอาของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้เดินทางไปที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อที่ยื่นหนังสือขอรับความคุ้มครอง ให้กับครอบครัวและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากว่าหวั่นเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากกลุ่มคนร้ายที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มคนมีสี
โดยในช่วงหลายวันที่ผ่านมามีคนแปลกหน้าเข้ามาที่หมู่บ้านของตนเยอะมาก และมีลักษณะท่าทางที่ไม่น่าไว้วางใจ อีกทั้งพวกตนมั่นใจว่า คนร้ายที่ลักพาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ ไปจะต้องมีหลายคน อาจจะลอบเข้ามาทำร้ายตนและครอบครัวก็ได้ ซึ่งเพื่อความปลอดภัย จึงได้มาขอรับความคุ้มครองเพื่อให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ความคุ้มครองดูแลความปลอดภัยให้ด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของสำนักงานยุติธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ได้ชี้แนะแนวทางการปฏิบัติต่าง ๆ ให้ทราบแล้ว
ทางด้าน น.ส.อุไรวรรณ ธรรมคุณ อายุ 44 ปี เป็นเพื่อนสนิทของ น.ส.จุฑาภรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงวันที่ 15 – 16 ส.ค. 60 ช่วงที่ตนปิดร้านและกำลังจะขึ้นรถหน้าร้านเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้าน ปรากฏว่า ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหารหลายคน ขับขี่รถยนต์เข้ามาและจอดหน้าร้านของตน จากนั้น ได้นั่งจ้องมองดูที่ตนและสามีประมาณ 2 นาที และขับรถออกไป วันต่อมา ก็ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดเดิมกลับมาอีก ซึ่งตนจำหน้าได้อย่างชัดเจน รวมทั้งหมายเลขทะเบียนรถด้วย ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.บึงมะลูทราบ เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยให้ เนื่องจากตอนนี้รู้สึก ตนมีหวาดกลัวเป็นอย่างมาก หลังจากให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กรณีที่ น.ส.จุฑาภรณ์ เพื่อนของตนที่หายตัวไปอย่างเงื่อนงำนานกว่า 1 เดือนแล้ว
ขณะที่นายบุญเลิศ พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ เกิดความเครียดอย่างหนัก เนื่องจากหวั่นเกรงว่า จะมีอันตรายจากภัยมืดและมีความเป็นห่วงหลานสาวของตนที่หายตัวไปเป็นอย่างมาก ได้เกิดอาการวิงเวียนหน้ามืด ลูกชายได้รีบนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลกันทรลักษ์ แพทย์ได้ทำการวัดความดันแล้ว ผลปรากฏว่า ความดันขึ้นสูงถึง 196 ถึงอยู่ในเกณฑ์สูงมาก แพทย์ได้ทำการฉีดยาให้ 3 เข็ม จากนั้น ให้ยามากินที่บ้านเพื่อรักษาตัวเองต่อไป
ล่าสุดนายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี สามีของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวด้วยใบหน้าเศร้าหมองว่า ตนและญาติพี่น้องทุกคน มีความห่วงใยอ้อยมาก และจะยังคงตามหาตัวของอ้อยอย่
