ประยุทธ์ หรือ บิ๊กตู่ ถามเด็กน้อยโตขึ้นอยากเป็นอะไร หากเป็นทหารใช่ว่าจะเป็นง่าย ๆ ลั่น ต้องวัดท่ามกลางสนามรบตนผ่านมาแล้ว ส่วนหากอยากเป็นนายก แม้งานหนักก็ต้องคิดว่าทำเพื่อคนอื่น ไม่ท้อแท้
เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยก่อนการประชุมายณัฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการนำคณะผู้บริหาร นักเรียน นักศึกษา และศิลปินดารา เข้าพบนายกฯ เพื่อมอบดอกกล้วยไม้ ประจำวันครู โดยวันครูประจำปี 2563 ที่ตรงกับวันที่ 16 ม.ค.นายกฯจะไปเป็นประธานเปิดงาน จากนั้นนายกรกันต์ สุทธิโกเศศ ศิลปินนักร้องได้ติดดอกกล้วยไม้พร้อมมอบของที่ระลึกซึ่งเป็นซีดีเพลงวันครูให้กับนายกฯ
นายกฯ ให้ความสนใจกับซีดีเพลง พร้อมกล่าวว่า มีเพลงเก่าๆ และเพลงใหม่ ๆ ใช่หรือไม่ ตนชอบเพลงเก่า เพลงใหม่ก็ชอบ ตนชอบทั้งคู่ ก่อนที่นายกฯ จะร้องท่อนหนึ่งของเพลงแม่พิมพ์ของชาติ ของศิลปิน วงจันทร์ ไพโรจน์ ซึ่งแม่ของตนนั้นเป็นครู ภรรยาตนก็เป็นครู จึงต้องปฏิบัติในระเบียบวินัย เพราะครูคนแรกของเด็กคือพ่อแม่ ครูคนที่สองก็คือที่โรงเรียน ถ้าครูทุกคนรักลูกศิษย์ มีการพัฒนาการเรียนรู้ร่วมกัน นำไปสู่การคิดวิเคราะห์ คิดเป็นกระบวนการให้ได้ ท่องตำราอย่างเดียวบางทีทำงานลำบาก ในวันหน้าเวลาไปทำงานคิดไม่ออกไม่ก็ไม่พัฒนาตัวเอง คนที่เป็นผู้บังคับบัญชาเขามีแต่ให้แนวทางปฏิบัติ เราก็ทำตาม จึงต้องมีความคิด วันหน้าเราต้องโตเป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน ไม่ใช่ต้องเป็นลูกจ้างตลอดไป
ทั้งนี้นายกฯ กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาไม่ใช่เฉพาะในระบบอย่างเดียว เราต้องพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต เหมือนในค่ายทหาร ตนได้ตั้งศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ถ้ามีเวลาก็ให้ทหารอ่านหนังสือ ท่องตำราตอนกลางคืนก่อนนอน แล้วไปสอบก็ยกระดับวุฒิการศึกษาขึ้นมา อะไรที่ดี ๆ ก็ให้กำลังซึ่งกันและกัน ไม่เช่นนั้นก็แย่ไปหมด ไม่มีกำลังใจจะทำอะไรให้
จากนั้นนายกฯ ได้สอบถามเด็กนักเรียนแต่ละคนว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร โดบมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งตอบรับว่าอยากเป็นทหาร นายกฯ จึงกล่าวว่า ให้ออกกำลังกาย ให้เข้มแข็งมีกล้ามเนื้อ วิดพื้น ดึงข้อ ปีนต้นไม้ จะได้กล้าหาญ เป็นทหารไม่ได้สักแต่ว่าจะเป็นหรือใครก็เป็นได้ ถามว่าเป็นทหารแล้วไปรบท่ามกลางกระสุนปืนเล็ก กระสุนปืนใหญ่ ตนเจอมาแล้ว ถึงเวลานั้นก็จะรู้ว่า มันจะเป็นทหารใช่หรือไม่ใช่ กล้าไปหรือเปล่า ก่อนที่นายกฯ จะถอนหายใจ พร้อมหันไปถามเด็กนักเรียนอีกคนว่า ไม่อยากเป็นนายกฯ บ้างหรือ ซึ่งเด็กนักเรียนบอกว่า ไม่ครับ เพราะงานเยอะ
โดยนายกฯ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ตอบเข้าท่าดี แต่ก็ต้องสู้งาน นายกฯไม่เคยท้อแท้หรอก งานยิ่งเยอะยิ่งต้องทำ ทำเพื่อคนอื่น อะไรก็ได้ที่ทำเพื่อคนอื่น แล้วเดี๋ยวตัวเองได้เอง ได้ความภาคภูมิใจ ความสุขแค่นั้นเอง ตนไม่ต้องการอย่างอื่นคิดแค่นี้ เพราะไม่มีอะไรได้มาเปล่าๆ ถ้าได้มาเปล่าๆ ก็เหมือนกับการยื่นยาพิษให้กับพวกเรา ซึ่งไม่ถูกต้อง จะต้องออกแรงใช้ความคิดจึงจะได้สตางค์ ทั้งนี้นายกฯ กล่าวในตอนท้ายว่า เปลี่ยนตัวตนบ้าง ปีใหม่แล้ว ทุกคนก็รู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี อะไรถูกไม่ถูก อะไรทำเพื่อส่วนรวม อะไรทำเพื่อส่วนตัวแยกให้ออก ถ้าแยกกันไม่ออกก็จะมั่วกันอยู่แบบนี้