ท่อควันดำ วันที่ 8 มีนาคม 2563 กรมการขนส่งทางบก ขานรับนโยบายจากรัฐบาล และนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จัดผู้ตรวจการลงพื้นที่ตรวจวัดค่าควันดำรถโดยสารและรถบรรทุกทั่วประเทศ
โดยวันเวลาดังกล่าวจะมีการดำเนินการตรวจวัดควันดำรถโดยสารและรถบรรทุกทั่วประเทศ จำนวน 1,820 คัน ซึ่งพบค่าควันดำเกิน จำนวน 10 คัน โดยรถที่มีค่าควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้พ่นห้ามใช้ทุกคัน และพบรถที่มีค่าควันดำ 30 – 45 % ได้ออกใบเตือน จำนวน 55 คัน เพื่อให้ผู้ประกอบการไปบำรุงดูแลรักษารถไม่ให้มีค่าควันดำเกิน แบ่งเป็น ดังนี้
ในเขตกรุงเทพมหานคร ดำเนินการตรวจในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สูง ตรวจวัดค่าควันดำรถจำนวน จำนวน 305 คัน (รถบรรทุก 195 คัน,รถโดยสารประจำทาง 71 คัน,รถโดยสารไม่ประจำทาง 39 คัน) พบรถที่มีค่าควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐานที่ราชการกำหนด จำนวน 1 คัน
ในส่วนภูมิภาค สำนักงานขนส่งจังหวัด 15 จังหวัดที่เป็นเส้นทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครนายก สมุทรปราการ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา อ่างทอง สระบุรี และ สุพรรณบุรี ตรวจวัดควันดำ จำนวน 664 คัน (รถบรรทุก 522 คัน, รถโดยสารประจำทาง 72 คัน,รถโดยสารไม่ประจำทาง 70 คัน) พบรถที่มีค่าควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐานที่ราชการกำหนด จำนวน 6 คัน ออกใบเตือน จำนวน 37 คัน
ในส่วนสำนักงานขนส่งจังหวัดอื่น 61 จังหวัด ตรวจวัดควันดำ จำนวน 851 คัน (รถบรรทุก 223 คัน, รถโดยสารประจำทาง 544 คัน,รถโดยสารไม่ประจำทาง 84 คัน) พบรถที่มีค่าควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐานที่ราชการกำหนด จำนวน 3 คัน ออกใบเตือน จำนวน 18 คัน
จึงส่งผลให้มียอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 – 8 มีนาคม 2563 ตรวจรถแล้วทั้งสิ้น 194,023 คัน พบรถที่มีค่าควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐานที่ราชการกำหนด ถูกพ่น ‘ห้ามใช้’ จำนวน 3,171 คัน ซึ่งผู้ประกอบการเจ้าของรถได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงและนำเข้าตรวจสภาพเรียบร้อยแล้ว จำนวน 1,843 คัน นอกจากนี้ยังฝากเตือนรถทุกคันที่ถูกพ่นห้ามใช้ ต้องนำรถไปแก้ไขและนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่ง เมื่อผ่านการตรวจสภาพจึงสามารถลบข้อความห้ามใช้ออกและนำรถไปใช้งานได้ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย ประชาชนมีส่วนร่วมด้วยการส่งภาพรถบรรทุกและรถโดยสารควันดำที่สังเกตเห็นหมายเลขทะเบียนชัดเจน ผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ด้วยการตรวจสอบสภาพรถเบื้องต้นด้วยตัวเองเพื่อให้รถอยู่ในสภาพปกติและไม่เกิดควันดำ ทำความสะอาดไส้กรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตกำหนด ตรวจเช็คหัวฉีดและปั๊มหัวฉีดน้ำมันให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน หมั่นดูแลเครื่องยนต์ไม่ให้ก่อปัญหาควันดำเมื่อใช้งานบนท้องถนน
