ชาวเน็ตวิจารณ์หนัก หลังกรมประชาสัมพันธ์เผยแพร่ภาพ พ่นฆ่าเชื้อโควิดโขดหิน นักวิชาการชี้ ไม่ควรทำ เพราะไม่เกิดผลและสิ้นเปลือง
เมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่ภาพการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จากกรมประชาสัมพันธ์ โดยภาพดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่พร้อมกับระบุข้อความว่า “ชายแดนก็ต้องปลอดโควิด ทหารพราน36 ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 5 พื้นที่รองรับ ภายหลังผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา เดินทางกลับไปยังภูมิลำเนา
หลังจากที่ภาพได้ถูกเผยแพร่ไปได้ไม่นานก็ได้เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตมากมายถึงความไม่จำเป็นในการพ่อน้ำยาฆ่าเชื้อในบริเวณดังกล่าว โดยชาวเน็ตหลายรายได้ระบุความเห็นว่า ระหว่างคนฉลาดแต่ขี้เกียจกับคนโง่แต่ขยัน ผมขอเลือกคนฉลาดแต่ขี้เกียจดีกว่า เพราะคนโง่แต่ขยันมันจะขยันทำแต่เรื่องโง่ๆ, ไม่ควรฉีดยาฆ่าเชื้อใส่ก้อนหินนะคะ แค่ให้ก้อนหินกักตัว14วันก็พไม่เปลืองน้ำยาด้วย, จริงๆ กองทัพน่าจะสอบถามทางนักไวรัสวิทยา หรือทางสาธารณสุขก่อนนะครับว่าวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องควรทำอย่างไร ภาพออกไปสื่อต่างประเทศมันดูไม่ดีเลยจริงๆ

นอกจากนี้ทางด้านของนักวิชาการอย่าง อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังจากที่ภาพชุดดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป โดยได้ระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
“ยังมีอยู่เรื่อยๆ นะครับ ที่มีการเอาสารเคมียาฆ่าเชื้อ มาฉีดพ่นตามถนน ตามที่สาธารณะ ด้วยความที่เชื่อกันว่าป้องกันโรคโควิด-19 ได้ (อย่างล่าสุดนี่ ถึงขนาดเอาไปพ่นกันตามป่าตามเขาเลย) ซึ่งก็เตือนอยู่ตลอดว่า ไม่ควรทำนะครับ !
เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลอะไรในการควบคุมโรค (แหล่งแพร่เชื้อโรคคือร่างกายของผู้ที่ติดเชื้อ ควรควบคุมตรงการคลุกคลีกันระหว่างผู้คนมากกว่า )
ยังเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ เพราะเชื้อไวรัสสามารถตายได้โดยไม่ยาก ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงและแสงแดดจัด
และที่สำคัญคือ ทำให้หลงเข้าใจผิดว่าป้องกันโรคได้ ทำให้คนในชุมชนอาจไม่ระมัดระวังตนเองเพียงพอ หลังจากเคยมีการฉีดพ่นสารฆ่าเชื้อไปแล้ว (มันเป็นการฆ่าเชื้อโรค ไม่ใช่เป็นการป้องกันเชื้อมาปนเปื้อนในบริเวณนั้น)
แถมจะมีอันตรายแก่ประชาชนและสัตว์เลี้ยง ที่สูดดมหรือสัมผัสสารเคมีเข้าไปได้ด้วยนะครับ
วิธีการที่ดีที่สุดในการควบคุมโรค covid 19 นี้ ก็คือ การควบคุมระยะห่างจากสังคม ลดกิจกรรมที่จะมีการรวมกลุ่มของผู้คน ดูแลสุขอนามัยในการอยู่ร่วมกัน แค่นั้นก็เพียงพอแล้วครับ”

ทั้งนี้ หลังจากที่เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกออนไลน์ถึงการนำน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ไปฉีดพ่นในบริเวณที่ไม่ควรฉีด ทางด้านของกรมประชาสัมพันธ์จึงได้ทำการลบโพสต์ดังกล่าวออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข่าวที่น่าสนใจ
รพ.ศิริราช ประกาศ รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉิน หลังพบบุคลากรติด โควิด-19
อัพเดทล่าสุด! รายชื่อ 42 จังหวัดที่ต้องกักตัว คนเดินทางเข้าพื้นที่
นครศรีฯ หวั่น พบผู้ป่วย ติดโควิด รู้ผลอยู่แล้ว แต่ยังบินกลับ กทม. – นครศรีธรรมราช